กระแสหุ้น OR ทำให้มนุษย์เงินเดือนสนใจการลงทุนมากขึ้น

ยอมรับเวลานี้มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากให้ความสนใจกับการลงทุนในหุ้น OR  ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ PTT ที่เน้นเรื่องของน้ำมัน ค้าปลีกและบริการอื่นๆ  จนไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยสนใจเรื่องการลงทุน และเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยแยแสตลาดหุ้น แถมนิยมลงทุนในสลากกินแบ่งมากกว่า ยังหันมาสนใจหุ้นตัวนี้เลย

นับว่าเป็นกระแสที่มาแรง เหมือนหนังใหญ่เรื่องหนึ่งกำลังเข้าโรงภาพยนตร์ยังไงยังงั้น ที่มีการโปรโมทอยู่รอบตัวเรา ทั้งหน้าร้านกาแฟ Amazon เมจเสจทาง SME จากการเป็นสมาชิก Blue Card หรือแม้กระทั่งตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในธุรกิจของ OR

แต่เมื่อมีการทดลองสอบถามว่าทำไมถึงสนใจการลงทุนในหุ้นตัวนี้จากเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จัก ก็จะพบ 2 เหตุผลใหญ่ๆ อยู่ 2 ข้อคือ

1. รู้จัก PTT อยู่แล้วเป็นทุนเดิมและคิดว่ามั่นคง

2. ดื่มกาแฟ Amazon เกือบทุกวันก็ขอเป็นเจ้าของเสียเลย

จากเหตุผลใหญ่ๆ ทั้งสองข้อก็นับว่าน่าสนใจที่หลายคนตื่นตัวและอยากเป็นเจ้าของธุรกิจตัวนี้ที่กำลังเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความคาดหวังทั้งเรื่องของผลตอบแทนและการสร้างความมั่งคั่งให้แก่ชีวิตในระยะยาว ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉุดคิดได้ประเด็นใหญ่ตอนที่ถามไปคือ รู้หรือเปล่าว่ากาแฟที่ดื่มอยู่นั้นมีสัดส่วนในการทำกำไรในหุ้นที่ซื้อไปเท่าไหร่ ความเงียบ คือ คำตอบ

แต่ความเงียบนั้นก็เป็นการเปิดโอกาสในการพูดคุยต่อนะครับ เช่น เอ…รู้หรือเปล่าว่าธุรกิจหลักของหุ้นตัวนี้คืออะไร และมีธุรกิจประเภทไหนบ้างที่มีอยู่ และอนาคตถ้าเขาได้เงินเราไปแล้วอย่างน้อย 5,400 บาท จากการซื้อหุ้นที่ราคา 18 บาท จำนวน 300 หุ้น เขาจะเอาไปทำอะไรต่อนะ แล้วโอกาสที่เราจะได้กำไรกลับคืนมาสามารถดูได้จากอะไรบ้าง ก็เป็นอีกบริบทหนึ่งในการพูดคุยกับเพื่อนที่ทำงานทั้งที่สนใจเรื่องการลงทุนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กับเพื่อนที่ไม่เคยสนใจเลย

แต่ต้องระวังเล็กน้อยนะครับว่า การลงทุนนั้นเราไม่สามารถใช้อารมณ์นำหน้าได้เสมอ ถึงแม้ว่าหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นแบรนด์หรือบริการที่เรารู้จักและเคยใช้ ทางที่ดีเราควรต้องศึกษาความสามารถในการบริหารและโอกาสในความยั่งยืนต่อการคืนผลกำไรกลับมาที่เราด้วย

แหม่…เขียนแบบนี้เดี๋ยวนึกภาพไม่ออก ก็ลองให้นึกถึงการที่เราจะตัดสินใจหยิบเงินก้อนหนึ่งให้เพื่อนคนนึงที่บอกว่าจะนำเงินนั้นไปต่อยอดสร้างธุรกิจ และหากได้กำไรจะส่งเงินคืนมาให้พร้อมกับเงินต้นนั่นแหละครับ ว่าแล้วเราก็ต้องมาวิเคราะห์ว่าเพื่อนคนนั้นเก่งจริงไหม ผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และธุรกิจที่จะไปทำโอกาสรอดเยอะไหม

ใครเผลอมาอ่านบทความนี้ก็ถือโอกาสระลึกทวงเงินเพื่อนที่เคยยืมเงินไปด้วยได้เลยนะครับ ฮา