เผลอเดี๋ยวเดียวเวลาผ่านไปจะเข้าสู่ครึ่งปีหลังแล้ว หลายคนอาจมีอาการยังคงตั้งตัวทั้งในแง่ของการงานและชีวิตส่วนตัวยังไม่ค่อยได้ วันนี้ออฟฟิศ 0.4 มีเทคนิคจดจำง่าย ๆ ที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้จากหลักคิด 7 P มาฝากกัน
1. Purpose
เรื่องของการตั้งเป้าหมายหรือสิ่งที่เราอยากไปให้ถึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่คือภาพใหญ่ที่ต้องมองให้ออกว่าความต้องการในชีวิตด้านการงาน การเงิน หรือสุขภาพ เราต้องการเห็นภาพสุดท้ายของเราเป็นแบบไหน เมื่อภาพชัดเจน จึงเป็นที่มาของการกำหนดแยกย่อยในรายละเอียดแต่ละวันว่าเราจะลงมือทำอะไรก่อนและหลัง
2. Plan
แม้ว่าเราจะมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่การที่จะไปให้ถึงเป้าหมายก็จำเป็นต้องอาศัยความต่อเนื่องในการลงมือทำบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่วางไว้ หลายคนอาจจะคิดว่าก็แค่ลงมือทำไปเรื่อย ๆ แต่อย่าลืมว่าระหว่างทางในชีวิตของเรามักมีสิ่งอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเข้ามารบกวนเป้าหมายเราได้เสมอ ดังนั้นการมีแผนหลักและแผนสำรอง จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาเป้าหมายและการลงมือทำของเราให้ยังคงอยู่ในเส้นทางสู่เป้าหมายนั่นเอง
3. Passion
เรื่องของแรงจูงใจมีอยู่สามระดับ
ระดับต่ำคือ ความกลัวที่ต้องทำ
ระดับกลางคือ ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่
ระดับสูงคือ รักที่จะทำ
แน่นอนเมื่อพูดถึงเรื่องของแพสชันกับสิ่งที่จะทำก็ต้องเป็นระดับสูง นั่นคือรักที่จะทำ แต่ประสบการณ์ส่วนตัว หากคุณเจองานที่มีแพสชันด้วยก็จงรักษามันไว้ให้ดี เพราะน้อยคนนักนะที่จะเจอ แต่ถ้างานที่คุณทำอยู่ไม่ได้มีแพสชันขนาดนั้นก็แค่ทำตามหน้าที่ให้ดี และหางานที่มีแพสชันอย่างงานเสริมหรือกิจกรรมบางอย่างมาหล่อเลี้ยงหัวใจก็ไม่ผิด เพราะเรื่องแบบนี้มันบริหารการอยู่ร่วมในชีวิตไปพร้อมกับเป้าหมายที่มีได้เหมือนกันนะ
4. Practice
ถ้าเราอยากจะโดดเด่นอะไรสักด้าน ไม่ว่าด้านอะไรก็ตาม จงฝึก ฝึก ฝึก และฝึก ด้วยการแลกเวลาที่มีเพื่อให้ความสามารถของเราสร้างเวลาในอนาคตให้เกิดคุณค่าและมูลค่าบนความต้องการของตลาด ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของเรา สำหรับข้อนี้ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในยุคนี้ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ปรึกษา นักบรรยาย เป็นต้น
5. Presence
มีคำกล่าวไว้ว่ามี 2 สิ่งทีมักพรากความสุขในชีวิตของเราไป
อันแรกคือ การจมอยู่กับอดีตที่ย่ำแย่
อันที่สองคือ การใส่ใจกับสิ่งอื่นๆ มากเกินไป
ที่สำคัญสองสิ่งที่เอยไปนั้น เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมสิ่งใดไว้ได้เลย ฉะนั้นการอยู่กับปัจจุบันคือของขวัญที่พิเศษต่อการใช้ชีวิตให้มีความหมายและสร้างช่วงเวลาที่กำลังดำเนินอยู่ในห้วงขณะนี้ให้กลายเป็นอดีตที่ดีเพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้
6. Pain
ชีวิตไม่ง่ายและการเจอความเจ็บปวดในชีวิตก็ไม่ง่ายเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญคือ เราเลือกได้ที่จะผ่านความเจ็บปวดไปด้วยบทเรียนเพื่อชีวิตที่เติบโตขึ้นหรือสร้างมันให้เป็นอดีตที่ฉุดรั้งเราไว้จากมุมมองของเรานั่นเอง
7. Positivity
จากทั้งหมดที่เล่ามา จุดที่จะทำให้ชีวิตเดินหน้าต่อได้ก็คือ การมี Positive Mindset ในยามที่ชีวิตเจอมรสุมที่เราอาจล้มแล้วล้มอีก และการเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องผ่านมันไปได้ ไม่ว่าจะด้วยเป้าหมายที่มี แผนการที่วางไว้ แพสชันที่เต็มเปี่ยม การฝึกฝนที่เคยทำ การอยู่กับปัจจุบันที่ดีงาม หรือการเรียนรู้จากความเจ็บปวดในอดีต มันล้วนส่งผลถึงวันข้างหน้าของเราทั้งนั้น วันที่ใครหลายคนอยากทำให้มันดีขึ้นและแตกต่างไปจากเมื่อวานหรืออย่างน้อยก็วันนี้
หวังว่าจะได้ข้อคิดดีๆ จาก 7 P กลับไปชุบชีวิตให้กลับมามีชีวิตชีวากันนะครับ
อ้างอิง: https://www.entrepreneur.com/article/428693?fbclid=IwAR2CaZnM8fvaeoDQeKpgtRBFNqc6tX2zdkswiCyLh7vmhp5b5rDAraNpiv8

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน