1
เราเริ่มต้นปีมาด้วยความหวังจาก New Year Resolution มากมายไล่ตั้งแต่ลดน้ำหนัก เก็บเงิน ไปเที่ยว ย้ายงาน และอีกมากมาย แต่เวลาข้ามปีไปไม่เท่าไหร่ข่าวไวรัสที่ถูกตั้งสมมติฐานจากซุปค้างคาวก็แพร่กระจายกันไปทั่วโลก และแน่นอนว่านี่คือจุดเริ่มต้นแห่งวิกฤตที่คนทำงานทุกคนได้เป็นคนเจเนอเรชั่นเดียวกัน ขอต้อนรับสู่ Generation Lockdown
2
สำหรับลูกจ้างตัวเล็กๆ คนหนึ่งการได้ทำงานที่บ้านดูเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะไม่ต้องรีบตื่นและคอยไปเบียดเสียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้าทั้งขาไปและขากลับ แต่ในขณะที่เจ้าของบริษัทก็ต่างวุ่นวายต่อการปรับรูปแบบการทำงานในยุค New Normal ที่กำลังจะเริ่มขึ้นและก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ และการทำงานระยะไกลก็เริ่มทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
3
เครียด เหงา เบื่อ ทำงานไม่เป็นเวลา จนบางทีก็ไม่ได้อาบน้ำ นี่กลายเป็นสภาพของคนทำงานที่บ้านที่วนเวียนอยู่ในสภาพแบบนี้ติดต่อกันหลายเดือน จนเราเริ่มยอมรับแบบอ้อมๆ แล้วว่า ข้อดีของการไปทำงานที่บริษัทมันมีอะไรบ้าง ในขณะที่บางคนก็เพิ่งรู้ตัวว่า Introvert คืออะไร ก็ตอนเมื่อได้อยู่กับตัวเองในช่วงเวลานี้นี่เอง
4
ข่าวการปลดพนักงานตามสายอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบต่างๆ เริ่มทยอยออกมากันเรื่อยๆ ทั้งอุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ตามมาด้วยยานยนต์ที่ย้ายฐานการผลิต และอุตสาหกรรมสื่อเก่าที่ปิดตัวลง หลายคนเริ่มหวั่นใจ และไม่ค่อยมั่นใจว่าจะถึงคิวบริษัทของเราและตำแหน่งของตัวเองไหม สุดท้ายก็หนีไม่พ้น บริษัทต้องรัดเข็มขัดและค่อยๆ ลดคอร์สด้วยการ เริ่มลดเงินเดือน จนมาถึงการเชิญออกพร้อมเงินชดเชย
5
นี่คือโลกแห่งความจริงที่เราต้องยอมรับ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเป็นคนสำคัญต่องานที่ทำมากน้อยแค่ไหน เคยตั้งคำถามไหมว่า ตำแหน่งที่ทำอยู่ ทำอย่างไรถึงจะถูกทดแทนได้น้อยที่สุด หากไม่เป็นเช่นนั้น ตัวเราเคยมีการเตรียมความพร้อมเพื่อชนความเสี่ยงอย่างการออมเงินไว้บ้างไหม แน่นอนถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย มันอาจทำให้คุณตกใจกลัวจนตัวสั่น แต่ความกลัวก็ไม่ได้ทำให้ท้องอิ่ม เพราะสิ่งสำคัญคือ เราจะจัดการกับความกลัวนั้นอย่างไร เพราะวิกฤตครั้งนี้มันอยู่กับเรานานกว่าที่คิดไว้พอสมควร
6
โอกาสที่อยู่ในวิกฤตไม่ใช่คำพูดลอยๆ แต่มันเกิดขึ้นจริงกับชีวิตของคนทำงานหลายคนในรอบนี้ โอกาสในที่นี้หมายถึงการได้เปิดใจเรียนรู้และหัดทำสิ่งที่เคยสนใจ หรือสิ่งที่อยากทำ แต่ยังไม่มีเวลาได้ทำ แน่นอนว่าหลายคนได้ทำจากการเอาตัวรอด และสุดท้ายทักษะที่ไม่เคยคิดจะทำได้ กลับกลายเป็นแหล่งรายได้หลักในยามเดือดร้อน
7
เรารู้ตัวแล้วว่าไม่มีอะไรแน่นอนและมั่นคงในชีวิต สิ่งที่มั่นคงที่สุดคือการออกแบบชีวิตให้ตัวเองต่างหาก วิกฤตรอบนี้เหมือนบังคับให้เราลงทะเบียนเรียน Management , Financial , Reskill , Resilience, Digital Marketing 101 ด้วยกันทั้งนั้น และเราคงยังต้องลงทะเบียนเรียนวิชาอีกมากมายในยุคที่ผันผวนและไม่มีอะไรแน่นอน หรือที่เรารู้จักกันว่า VUCA WORLD
8
คนทำงานจะต้องมีร่างของผู้ประกอบการอยู่ในตัว Entrepreneurial Mindset นั่นคือ มีมุมมองการบริหารจัดการตนไปข้างหน้า ด้วยการถอดบทเรียนที่ผิดพลาดในอดีต และหัดหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อการเติบโต รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนต่อสภาพแวดล้อมในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับผู้คนในวงการและนอกวงการ เพื่อสร้างฐานบันไดในก้าวต่อไปในชีวิต
9
แต่ความเป็นจริงแล้วกว่าจะผ่านในแต่ละขั้นตอนได้ ต้องยอมรับว่าหลายคนเสียน้ำตาและทรมานต่อการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งเป็นอย่างมาก บ้างก็ต้องแลกมาด้วยความเครียด และภาวะซึมเศร้าที่ในชีวิตนี้ต่างก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องเผชิญกับตัวเอง แต่นั่นแหละสิ่งที่คิดว่าแน่นอนมันไม่แน่นอนอยู่แล้ว และในปีนี้ชีวิตก็สอนให้เราได้ยอมรับความจริงกับชีวิตว่าต้นทุนที่ผ่านมาของเรานั้นมันมีแค่ไหน และควรจะต้องจัดการต่อไปอย่างไร
10
ปีใหม่ในปีนี้เรามองว่ามันเหมือนวันธรรมดาวันหนึ่งที่แค่จะเปลี่ยนเลขศักราชเท่านั้น เพราะบรรยากาศนั้นช่างเต็มไปด้วยความกังวลมากมายที่ไม่รู้ว่าจะหนักหนาสาหัสกับปีที่กำลังจะผ่านไปแค่ไหน แต่อย่างน้อยนี่เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราปักหมุดและตกผลึกกับตัวเองว่า เราได้สู้เต็มที่กับมันแล้ว และจะไม่ยอมให้มันผ่านไปได้ง่าย แต่เราจะเรียนรู้และสกัดความเจ็บปวดที่เคยได้รับมาเป็นภูมิคุ้มกันด้วยทักษะและความรู้ใหม่ๆ ให้เรานั้นเติบโตต่อไป…
===========================
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน