แชร์ข้อคิด 3 ข้อ
สำหรับคนที่ตัดพ้อว่าชีวิตกำลังมีปัญหา
สารภาพตรงๆว่า ช่วงนี้ผมเจอปัญหาหลายเรื่องเข้ามาถาโถมมากเลยล่ะครับ แต่ก็ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิตที่ต้องผ่านไปให้ได้เหมือนกัน
ระหว่างที่เจอกับปัญหา ก็พยายามจะตกตะกอนความคิดของตัวเองออกมาว่า อะไรที่เป็นปัญหา อะไรที่ไม่ใช่ปัญหา และอะไรที่ทำให้เรากังวลใจมากกว่ากัน เพื่อจะได้ลดความวิตกกังวลลงบ้าง
ตอนนี้เหมือนว่าปัญหาต่างๆจะค่อยๆคลี่คลาย (หรือทำใจได้ก็ไม่รู้) เลยถือโอกาสเขียนเล่าแนวคิด 3 ข้อนี้ให้ฟังกันครับ
1
ปัญหาเราอาจจะเบาลงได้
ถ้าหากรู้จักรับฟังปัญหาของคนอื่น
ถ้าหากเราเอาชีวิตไปจมอยู่กับปัญหาและคอยก่นด่าว่ามันแย่ ลองเอาตัวเองออกจากปัญหาไปปรึกษา พูดคุย หรือ รับฟังคนรอบข้างดูบ้าง เราจะพบความจริงข้อหนึ่งว่า ทุกคนล้วนมีปัญหา
ผมสังเกตว่า ปัญหาที่เรียกได้ว่าหนักหรือเบานั้น มันอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคนที่มีต่อปัญหามากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนั้นการรับฟังคนอื่นจะทำให้ทัศนคติและมุมมองของเราที่มีต่อปัญหากว้างขึ้นและมันอาจจะช่วยให้เรารู้สึกเบาลงได้
แต่อย่างไรก็ดี อย่าทำร้ายคนอื่นด้วยการบอกว่าตัวเองมีปัญหาหนักกว่าคนอื่นเลยครับ เพราะความรู้สึกของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน
2
อย่าให้ปัญหามาทำลายชีวิตทั้งหมด
ให้มันทำลายแค่บางส่วนก็หนักหนาพอแล้ว
ถ้าปัญหามาทำลายจิตใจเรา ต้องไม่ปล่อยให้มันทำลายชีวิตส่วนอื่นของเราไปด้วย – พูดง่ายนะครับ แต่จริงๆมันยากมาก
สิ่งหนึ่งที่ผมพยายามคิดเมื่อเจอปัญหา คือ เราจัดการได้ดีที่สุดแล้วหรือยัง ถ้าดีที่สุดแล้วแบบที่ไม่เสียใจภายหลัง เราก็เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปซะเถอะ
เพราะชีวิตที่เหลือของเราคงไม่ได้เจอปัญหานี้เพียงปัญหาเดียว แต่ถ้าเราจมจ่อมอยู่กับปัญหานี้เพียงปัญหาเดียว ชีวิตเราจะเลี้ยวเสียหลักได้ และอาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมายก็ได้เช่นกัน
และมันไม่ใช่เรื่องเแปลกนะครับ ถ้าจะไม่มีใครเข้าใจปัญหาที่เราเจอว่ามันหนักหนาแค่ไหน เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะมาเข้าใจเราขนาดนั้น
อันนี้พูดตรงๆ และดูแรงไปหน่อย แต่ผมคิดว่าการยอมรับความจริงข้อนี้ มันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นครับ
3
ทำความเข้าใจว่า
ชีวิตของเรามีเวลาจำกัด
ข้อนี้จะปลงๆ เสียหน่อย คือ ยังไงวันหนึ่งเราก็ตายอยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือแก้ปัญหามันไปเท่าที่ทำได้ จัดการชีวิตให้ดีที่สุดอย่างเรียบง่าย แล้วจะพบว่า มันก็พอมีทางของมันไปนั่นแหละ จะดีบ้าง ล้มบ้าง แต่ชีวิตเราก็ต้องผ่านไป หรือไม่เราก็ชินกับมันไปเอง
แต่ถ้าหากใครที่เจอปัญหาแล้วรู้สึกไม่ไหวจริงๆ
ผมว่าไปพบจิตแพทย์่ช่วยได้นะครับ
อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ข้อนี้มันไม่ได้ช่วยให้ปัญหาที่มีหายไปหรอกนะครับ แต่มันช่วยให้เราไม่ตัดพ้อต่อปัญหาที่เกิดขึ้นและมีสติกลับมาแก้ไขสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีขึ้นได้
มีปัญหา = ต้องแก้ไข
มีสติ = ไม่คลุ้มคลั่งกับปัญหา
ท้ายที่สุดนี้ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เจอกับปัญหา แล้วได้มาอ่านบทความนี้ ผมขอให้คุณเจอหนทางที่แก้ปัญหาได้ไว ๆ นะครับ

พรี่หนอม หรือ แท็กซ์-บัก-หนอม เจ้าของ บล็อกภาษีข้างถนน ผู้สนใจทำให้การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มักแอบคิดเสมอว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าการทำงาน จึงเป็นที่มาของบทความในออฟฟิศ 0.4 กับคอลัมน์ชื่อ “สิ่งที่คนทำงานไม่เคยบอก”