จิตใจของทีมก็สำคัญไม่แพ้งาน

สวัสดีครับทุกคน ขอถามสักเล็กน้อยครับว่า การที่เราจะเช็คว่าคนคนนั้นจะสามารถมีภาวะผู้นำที่เหมาะสมต่อการทำงานนั้น เรามีวิธีเช็คและตรวจสอบกันอย่างไรบ้าง

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า โห…ของแบบนี้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น อันนั้นก็จริงนะครับ.ทว่าผมได้ไปอ่านบทความ Here’s How Google Knows in Less Than 5 Minutes if Someone Is a Great Leader เขียนโดย เจฟฟ์ ฮาเดน บรรณาธิการแห่ง Inc.com ครับ ซึ่งพบว่าเทคนิคการสำรวจภาวะผู้นำของกูเกิ้ลนั้นน่าสนใจเอามากๆ แถมไม่ได้ซับซ้อน ด้วยการตั้งคำถามดังนี้ครับ

1. ผู้จัดการได้มีการให้ฟีดแบคเพื่อช่วยให้คุณปรับปรุงศักยภาพการทำงาน

2. ผู้จัดการไม่มีการมาจู้จี้จุกจิกเรื่องานมากเกินไป

3. ผู้จัดการเคยพิจารณาการทำงานกับฉันเป็นพิเศษ

4. ผู้จัดการเคยมีการแสดงมุมมองในการนำทีมที่แตกต่างไปจากเดิม

5. ผู้จัดการให้ความสำคัญกับทีมในการสร้างผลลัพธ์ตามลำดับความสำคัญ

6. ผู้จัดการมักจะแชร์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อการทำงาน

7. ครึ่งปีที่ผ่านมา ผู้จัดการมักจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีความหมายเพื่อยกระดับทีมเสมอ

8. ผู้จัดการมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ให้สำหรับทีม

9. ผู้จัดการมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษ เช่น การเขียนโค้ด เทคนิคการขาย ฯลฯ

10. ฉันอยากจะแนะนำผู้จัดการคนนี้ให้แก่แผนกอื่นๆ ในกู้เกิ้ล

11. ฉันพึงพอใจในการทำงานร่วมกับผู้จัดการคนนี้เป็นอย่างมาก.นี่คือ

11 ข้อหลักที่กูเกิ้ลเอาไว้ตรวจสอบกับภาวะผู้นำของทีมต่างๆ โดยจะใช้สอบถามกับผู้จัดการในแต่ละทีม ยกเว้นข้อ 10 กับ 11 ที่จะให้ลูกทีมออกความคิดเห็น.ส่วนการให้คะแนนนั้นจะให้ตั้งแต่ 1 คะแนนคือ เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ไปจนถึง 5 คะแนน ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก คือถ้าเรียงมาแบบนี้ ผู้จัดการคนไหนได้คะแนนน้อยก็หมายถึงมีศักยภาพการเป็นลีดเดอร์ชิพที่เหมาะสม พอเรียงคะแนนมาแบบนี้ตาม เจฟฟ์ ฮาเดน ก็แปลกๆ ดีครับ

แต่ก็ยังมีคำถามอีก 2 คำถาม ที่กูเกิ้ลจะให้พนักงานหรือลูกทีมได้ตั้งคำถามกับหัวหน้าของพวกเขาด้วยนะครับ นั่นคือ

1. คุณอยากให้หัวหน้าของคุณทำอะไรเพิ่ม หรือรักษาอะไรไว้บ้าง

2. คุณอยากให้หัวหน้าปรับปรุงเรื่องอะไรบ้าง

ซึ่ง 2 คำถามนี้ เชื่อว่าน่าจะถูกใจลูกน้องหลายๆ คน เพราะจากประสบการณ์ทำงานของผม ได้เคยตั้งคำถามว่า ปลายปีทีไร เรามักจะโดนหัวหน้าประเมินอยู่ตลอดเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติแหละ

แต่ถ้าคิดกลับหัวหน่อย หัวหน้าก็ควรถูกลูกน้องประเมินด้วยเช่นกัน ตอนมาอ่านบทความนี้ก็รู้สึกเห็นดีเห็นงามด้วยเลย ไม่ใช่เพื่อจะแก้แค้นหรืออะไรนะครับ แต่เพื่อจะได้เกิดการปรับปรุงไปด้วยกันทั้งสองขั้วนั่นแหละ

การตรวจสอบภาวะผู้นำของผู้จัดการตามฉบับของกูเกิ้ลนั้น ถ้าสังเกตจากชุดคำถามให้ดี คือ การเน้นไปยังเรื่อง ‘SOFT SKILL’ เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การสื่อสาร การรับฟีดแบค การโค้ชชิ่ง การทำงานเป็นทีม การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และการหัดพิจารณาไตร่ตรอง เป็นต้น

ที่สำคัญกว่านั้นในบทความนี้ เจฟฟ์ ฮาเดน บอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากทักษะต่างๆ ที่ว่ามาแล้ว คือ เรื่องของจิตใจของคนทำงาน ซึ่งคนเป็นหัวหน้าก็ต้องหัดมีหน้าที่รับผิดชอบด้วย ไม่ใช่คอยแต่สั่งๆๆๆๆ เพื่อให้ทำงาน แต่ควรต้องทำไปในทางที่ถูกต้องด้วย

สุดท้ายและท้ายสุด กระบวนการเหล่านี้ของกูเกิ้ล กำลังอยากจะบอกคนทำงานทุกคนว่า ถ้าเราสามารถทำให้งานที่เราทำอยู่ให้มีความหมาย นี่คือสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานอย่างเรา ไม่ว่าความหมายเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า ทักษะ พรสวรรค์ หรือประสบการณ์ที่ได้รับก็ตาม.ขอให้คนที่เป็นหัวหน้าทีม รับผิดชอบและดูแลทีมให้ดี.ส่วนคนในทีม ถ้ามีหัวหน้าที่ดี ก็รักษาเขาไว้และพัฒนาทีมไปด้วยกันครับ

อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4

SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19

APPLE : https://apple.co/2TXdzUr

SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC

YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT

PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

TWITTER : https://twitter.com/Office04TH

WEBSITE : https://office04.org/JOBS 0.4 GROUP : https://bit.ly/37a71YR