ตอนเป็นวัยรุ่น คำว่า ‘ชีวิตไม่แน่ไม่นอน’ นั้นเป็นคำที่ได้ยินบ่อย แต่ไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งมาถึงช่วงวัยที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของตนเอง และการเกิดขึ้นของโรคระบาดที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในรอบนี้
จากประสบการณ์ของผม ชีวิตจะเปลี่ยนมีอยู่ 2 ข้อ คือ
1. เปลี่ยนเพราะมีเป้าหมาย
2. เปลี่ยนเพราะวิกฤติ
สำหรับคนที่มีเป้าหมายมาก่อน อาจเกิดจากแรงบันดาลใจ หรือการได้รับคำแนะนำจนฉุกคิดได้ จนทำให้เกิดการวางแผนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ตัวอย่างที่พอจะนึกเห็นภาพที่ชัดเจน คือ เรื่องราวของวงดนตรี Cocktail
ผมมีโอกาสได้คุยกับพี่โอม Cocktail จากการทำงานร่วมกันงานหนึ่ง พี่โอมเล่าให้ฟังว่า งานดนตรีเป็นงานที่เขาและสมาชิกใฝ่ฝัน แต่ก็พอรู้ว่าอาชีพนักดนตรี มีช่วงเวลาพีค ๆ เต็มที่ก็อาจอยู่ได้นานสัก 10 ปี นั่นคือการประเมิน หลังจากนั้นคือคำถามแล้วว่า ถ้าหมดยุครุ่งเรื่องวงดนตรีจะอยู่กันอย่างไร
เมื่อจินตนาการถึงวันที่แย่ที่สุด จึงเกิดการวางแผนรับมือที่ดีที่สุดในเวลานั้น
พี่โอมจึงเริ่มก่อตั้งกองทุนสำหรับสมาชิกวงดนตรีขึ้นมา เพื่อเอาไว้ออมเงินหลังจากได้ค่าจ้างในการออกงาน เอาไว้สำหรับเป็นเงินก้อนให้กับวงและสมาชิกในอนาคต เรียกได้ว่าเหมือนระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทคอยหักรายได้เอาไว้ให้พนักงานมีเงินออมในนั่นเอง
ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมา เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ที่งานดนตรีหดหายไปแต่สมาชิกวงสามารถยังคงอยู่ได้จากระบบกองทุนที่วางแผนไว้ จนระบบนี้ได้มีวงอื่น ๆ นำไปใช้เพื่อสั่งสมความมั่นคงและมั่งคั่งในอนาคตตามไปด้วย ซึ่งจวบจนถึงทุกวันนี้ วง Cocktail ได้เดินทางบนเส้นทางสายดนตรีได้นานกว่าที่พวกเขาคิด และยังคงมีผลงานออกมาให้แฟน ๆ ได้รับฟังอยู่เสมอ
กรณีของวง Cocktail ทำให้ผมเรียนรู้ว่า การรักษาและการดูแลอาชีพในฝันนั้น การใช้ความชอบทุ่มเทอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการมองเห็นสถานการณ์ที่แย่ในวันข้างหน้า เพื่อจะได้เตรียมแผนสำรองบางอย่างเอาไว้ในวันที่เกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเอาไว้ โดยเฉพาะรายได้ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตและความฝันไปด้วยกัน
ส่วนคนที่ทำงานประจำและมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้ว อยากจะบอกว่านั้นคือ กองทุนล้ำค่าสำหรับการออมเงินที่ได้ประโยชน์สองเท่า คือ บริษัทหักออมจากเงินเดือน ที่เรายินยอมระหว่าง 2-15% แถมบริษัทยังสมทบให้อีก แต่กี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่นโยบาย ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ การมีเงินสำรองและการเก็บออมเอาไว้ ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วผมอยากชวนผู้อ่านมาจินตนาการถึงวันที่แย่ที่สุดกันหน่อยครับ
เพื่อที่จะได้มีเป้าหมายต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงไว้ ดีกว่าจะต้องมาเปลี่ยนเพราะถูกวิกฤติบังคับ ซึ่งมันไม่สนุกเอาเสียเลย…

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน