“ช่วงนี้ผมแย่ว่ะ พี่แนะนำผมหน่อย”
“คิดเสียว่าเรื่องแย่ๆ มันทำให้เรารู้สึกดีได้ง่ายขึ้นสิวะ”
น้องคนหนึ่งมาปรึกษาผมถึงเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาในช่วงนี้ ทั้งเลิกรากับคนรัก ปัญหาการเงินของครอบครัว ไปจนถึงงานที่ทำต่างๆ เริ่มมีปัญหาว่าจะต่อสัญญาไหม
ดูจากหน้าตาแล้วเขาไม่สบายใจสักเท่าไร
ผมทำได้แค่รับฟังกับปลอบใจไปว่ามันจะดีขึ้น
“กูรู้นะว่า พูดอะไรแบบนี้มันง่าย แต่เอาจริงถ้ากูเป็นมึงก็คงแย่เหมือนกันว่ะ” ผมสารภาพไปตรงๆ หลังจากที่เห็นสีหน้าของเขา
“เอาเป็นว่าลองคิดกลับกัน
มันอาจจะทำให้มึงได้เจออะไรดีๆในช่วงที่มึงแย่ก็ได้นะ”
นึกย้อนไปตอนที่ตัวเองแย่ ผมมีความรู้สึกเหมือนโลกพังทลายลงต่อหน้า บางครั้งยังรู้สึกด้วยซ้ำว่าทำไมชีวิตเราต้องเจออะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ลุกขึ้นได้คือ ทัศนคติที่ดีที่เรามีต่อตัวเอง ประกอบกับ ทัศนคติที่คนอื่นมีต่อเรา
เหมือนอย่างที่เขาพูดกันว่า ในวันที่เราแย่ เราจะรู้ว่าใครคือเพื่อนแท้ หรือรู้แม้กระทั่งว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ
“เอางี้ มึงลองมองดูรอบๆตัวดิว่า มันมีอะไรดีๆขึ้นมาบ้าง เล็กๆน้อยๆก็ได้” ผมบอกกับเขาให้ลองมองหาเหตุการณ์ดีๆ ที่เกิดขึ้น
เขานิ่งไปสักพัก….
—
“ไอ้ที่เลิกกับแฟน ก็เพราะว่าเขามีคนใหม่ แล้วทิ้งผมไปอ่ะพี่ โชคดีเหมือนกันที่เพื่อนผมมันแอบมาบอก จนผมจับได้ว่าเขามีคนใหม่จริง”
“แสดงว่า มึงโชคดีมากเลยนะที่มีเพื่อนแบบนี้ เพื่อนที่กล้ามาบอกโดยที่ไม่กลัวจะเป็นหมา”
เขายิ้มตอบกลับมาจางๆ
รอยยิ้มของเขา ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมาถูกทางล่ะ
“ส่วนปัญหาที่บ้าน นี่ผมมองไม่ออกจริงๆพี่”
“แต่เท่าที่กูรู้จักมึงมา พี่น้องมึงก็ร่วมกันแก้ปัญหาใช่ไหม”
เอาวะ ในความลำบากของตระกูล เหล่าทายาททั้งหลายก็ยังพยายามจะอยู่สู้ต่อร่วมกัน และหาทางแก้ปัญหา ไม่มีใครหนีหายหน้าเอาตัวรอดก่อน
ผมพยายามสื่อสารกับเขาแบบนี้ออกไป
และเขาเหมือนจะเข้าใจมากขึ้นกว่าเก่า
“ส่วนเรื่องสุดท้าย เรื่องงาน มึงคงต้องพยายาม… “
“ไม่พี่ ผมเพิ่งนึกออก จริงๆ มันมีคนชวนผมไปทำงานด้วยอยู่ พรุ่งนี้ผมลองติดต่อเขาดูดีกว่า”
อืม… โชคดีเหมือนกันที่มันคิดได้เอง
ผมคิดแบบนี้ในใจ เพราะไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน
ในโลกของความเป็นจริง มันอาจจะเป็นคำพูดที่มักง่ายไปหน่อยว่า ถ้าเจอเรื่องร้ายๆ ให้มองหาสถานการณ์หรือเหตุการณ์ดีๆจากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น
อย่างไรก็ดี ผมคิดว่าประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำให้หลายคนเจอเหตุการณ์ดีๆในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ เป็นเพราะการปฎิบัติของตัวเราต่อคนอื่นต่างหาก
ถ้าหากเราเป็นคนหงุดหงิด โมโหเพื่อนง่าย หรือคอยด่าคนอื่นตลอดเวลา เพื่อนก็คงไม่กล้าจะมาบอกความลับกับเรา
ถ้าหากเราเป็นคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัว หรือคนในครอบครัวเราไม่ให้ค่ากับความสัมพันธ์ ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ละเรื่องนั้นก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
และสุดท้ายถ้าหากเราไม่ตั้งใจทำงานให้ดี
ก็คงไม่มีใครอยากได้เราไปทำงานด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้น เรื่องราวดีๆ จะเกิดขึ้นสำหรับคนที่พร้อมรับเรื่องราวดีๆ แม้ว่าในวันที่เขาเจอแต่เรื่องร้ายๆ
นี่คือประเด็นที่ผมคิดได้หลังจากคุยกับเขา
—
“พี่ขอบคุณมาก ตอนนี้ผมโอเคละ”
“เออดีใจด้วย ชีวิตคนก็แบบนี้แหละนะ ฮ่าๆ”
ล่าสุดเขาส่งข้อความมาหา พูดคุยกับผมถึงเรื่องที่ผ่านมา ปัญหาที่เขาเจอในวันก่อนก็เหมือนจะผ่านไปเช่นกัน วันนี้เขามีคนรักคนใหม่ที่เขาภูมิใจในความซื่อสัตย์ ปัญหาการเงินในครอบครัวก็เหมือนจะเหลืออีกไม่มาก และตอนนี้เขากลายเป็นผู้ประกอบการเต็มตัวจากการที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่
“เห็นไหมว่า สุดท้ายแล้วมันก็มีเรื่องดีๆ”
ผมบอกเขาไปแบบนี้ เมื่อเห็นสีหน้าที่สดใสของเขา
“ขอบคุณครับพี่ ถ้ายังไงพี่มีปัญหาอะไรอยากให้ผมช่วย บอกมาได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” เขาบอกผมไว้แบบนี้ก่อนที่จะจบการสนทนา
ผมยิ้มให้กับหน้าจอ พลางคิดในใจว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีเหมือนกับเขา ที่เจอปัญหาแล้วมีเรืองดีๆ เข้ามาช่วยแก้ไขจนผ่านพ้นไปได้
แต่อย่างน้อยตัวอย่างของเขาก็คงเป็นกำลังใจที่ดีที่จะทำให้ใครหลายคนเริ่มต้นรู้สึกดีขึ้นกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต ณ ตอนนี้
…ในวันที่ใครหลายคนไม่มีทางออก

พรี่หนอม หรือ แท็กซ์-บัก-หนอม เจ้าของ บล็อกภาษีข้างถนน ผู้สนใจทำให้การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มักแอบคิดเสมอว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าการทำงาน จึงเป็นที่มาของบทความในออฟฟิศ 0.4 กับคอลัมน์ชื่อ “สิ่งที่คนทำงานไม่เคยบอก”