“หัวใจสำคัญของการดูคนคือ อย่าถามเยอะ แต่ดูให้เยอะและฟังให้มาก และเชื่อในวิจารณญาณของเรา”
นี่คือหนึ่งในหลักคิดการทำงานและการบริหารคนของ คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร CEO แห่ง บริษัทเอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) ที่ได้มาแชร์ในคอร์สของ Cariber ครับ
แง่คิดของคุณเล้งข้อนี้ ตอนอ่านทำให้ผมพยักหน้าเหมือนเห็นตามไปด้วยอัตโนมัติ ในฐานะคนที่ลูกน้องอยู่ในทีมว่า เราต้องดูให้เยอะและฟังให้มาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ผมเดินทางมาถึงที่ทำงานในตอนเช้า พอเดินเข้าพื้นที่ทำงานไป ก็พบเจอน้อง ๆ ในทีมนั่งทำงานกันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย น้อง ๆ ในทีมมากันเช้ามากและเข้าก่อนเวลางานเฉลี่ยครึ่งชั่วโมงได้
ผมไล่ทักทายตามประสาไปทีละคน จนกระทั่งมาถึงน้องผู้หญิงในทีมคนหนึ่ง ซึ่งน้องก็ส่งรอยยิ้มให้เหมือนจะปรกติ แต่ผมสังเกตภายในแววตาแล้ว เหมือนมีความเศร้าซ่อนอยู่ จู่ ๆ สัญชาตญาณก็บอกผมว่ามันคงมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับน้องแน่ ๆ ผมจึงชวนน้องเข้าไปในห้องประชุม เพื่อคุยกันสองต่อสอง และพอพ้นเสียงปิดประตูและการทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ น้ำตาของน้องก็ไหลออกจากขอบตาโดยอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว
น้องเล่าให้ฟังว่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปตรวจหน้าอก แล้วก็พบว่า มีก้อนเนื้อประหลาดอยู่บริเวณนั้น ขนาดเกือบ 1 เซนติเมตร พร้อมกับคำสันนิษฐานของคุณหมอว่า อาจเป็นทั้งเนื้อดีหรือไม่ก็เนื้อร้ายอย่างมะเร็ง แน่นอนพอขึ้นชื่อว่ามะเร็ง ทุกคนย่อมกลัวอยู่แล้ว ขณะที่น้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและความกังวลในใจของเธอ น้ำตาก็เหมือนกับถูกเปิดก๊อกทิ้งไว้แบบไหลไม่หยุดเลย
ผมนำมือไปกุมมือน้องและบอกให้ใจเย็น ๆ ซึ่งเหตุการณณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ในตอนนี้ นอกจากรอเวลาไปเจาะตรวจชิ้นเนื้อ แล้วดูผลว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป น้องถึงขนาดกังวลและอยากเขียนจดหมายหาพ่อแม่เพื่อเผื่อไว้หากเป็นอะไรกะทันหัน ผมให้กำลังใจและบอกไปว่า มันอาจไม่รุนแรงขนาดนั้น แต่อยากให้มองโลกในแง่ดีไว้ว่า อย่างน้อยมันก็ไม่ถึง 1 เซนติเมตร และมันก็เพิ่งเจอ และอยากให้ช่วงเวลาที่รอวันหมอนัดตรวจ ขอให้เราควบคุมชีวิตตัวเองอย่างมีความหวัง อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะไม่เช่นนั้นร่างกายเราจะทรุดโทรมเพราะความกังวลไปเรื่อย ๆ
ผมเองไม่ได้มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่ แต่ในเรื่องการให้กำลังใจกับคนที่ผิดหวัง ผมคิดว่าผมเองก็จ่ายยาชูกำลังใจให้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกน้องผมหรือคนที่ทำงานกับผม ทุกคนคือคนสำคัญจริง ๆ
การเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในชีวิต มันมักจะทำให้เราสติแตก และหวั่นวิตกไปต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเคยเกิดขึ้นกับผมตอนที่รู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง พ่อเป็นมะเร็ง และภรรยาผมก็ตรวจเจอก้อนเนื้อปริศนาเหมือนกับที่น้องในทีมของผมเจอนั่นแหละครับ
ความตกใจ เจ็บปวด รวดร้าวในอดีตที่ผ่านมาของชีวิต เหมือนเป็นยาชุบชีวิตเพื่อให้เรารู้ว่าควรรับมือกับเหตุไม่คาดฝันกับสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างไร ทั้งในฐานะลูก คนรัก และหัวหน้า รวมถึงการใส่ใจดูแลคนรอบข้างให้มาก ๆ ด้วยการดูให้มาก ๆ ฟังพวกเขาให้มาก ๆ ภายใต้วิจารณญาณและสัญชาตญาณที่เกิดจากประสบการณ์ของเราครับ

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน