เมื่อไม่นานมานี้เชื่อว่าหลายคนเริ่มได้ยินข่าวคนติดเชื้อโควิด 19 ในเมืองไทยกันบ้างแล้ว ซึ่งทำให้หลายคนเริ่มหวาดวิตกกับการระบาดรอบสอง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงเชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจินตนาการว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงอะไรบ้างในชีวิต
หากให้รีวิวชีวิตการทำงานตั้งแต่เดือนมีนาคม 63 จนถึงปัจจุบัน วิกฤตที่เกิดขึ้นสร้างความหวั่นวิตกต่อความมั่นคงในหน้าที่การงานและชีวิตความเป็นอยู่มาอย่างต่อเนื่อง ผสมกับข่าวคราวการปิดตัวของบริษัทหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งที่เกิดเรื่องก็มีเพื่อนพ้องที่รู้จักได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
เพื่อนของผมหลายคนที่ได้รับผลกระทบมีหลากหลาย ทั้งแบบยังไม่มีภาระในชีวิต ซึ่งหมายถึงยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว ส่วนเพื่อนที่มีครอบครัวก็พยายามดิ้นรนหางานเพื่อสร้างรายได้ให้เร็วที่สุดก่อนที่เงินก้อนสำรองฉุกเฉินจะหมดไปในแต่ละเดือน โดยเพื่อนบอกผมว่าหากมีงานแนวที่คิดว่าเขาสามารถทำได้ ให้ติดต่อได้ทันที
เมื่อไม่นานมานี้น้องที่ทำงานของผมมาสอบถามว่า ปีนี้จะมีโบนัสไหมพี่
ผมจึงตอบไปโดยทันทีว่า โบนัสปีนี้ คือ การมีงานทำ
ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะพยักหน้าเห็นด้วยกับนิยามโบนัสที่ว่าไว้ การพยายามทำงานให้เต็มที่และดีที่สุด เท่าที่เรามีโอกาสจะทุ่มเทได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดมากนัก หากกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วพบว่ามีเพื่อนที่รู้จักจำนวนมากอยู่ในสถานะภาพว่างงาน และช่วงเวลาแบบนี้ก็พอเป็นคำตอบให้เราตอบตัวเองได้ในยามเหนื่อยล้าว่า เราทำงานหนักกันไปทำไม
แต่การทำงานหนักในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน จนไม่ดูทิศดูทางถึงอนาคตข้างหน้าที่อาจเปลี่ยนไป นั่นคือการตั้งใจทำงานไปกับการวางแผนชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงกับชีวิต หากวิกฤตยังคงตามมาหลอกหลอน หรือมาเยือนอย่างกะทันหัน
จากข้อมูลที่ผมได้รับจากพ้องเพื่อนและคนรู้จักที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสวายร้ายโควิด 19 มีอยู่ 2 ข้อหลัก คือ
1. เรื่องเงินกลายเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องหลักของชีวิต วิกฤตรอบนี้ทำให้รู้ว่าเงินสำคัญกับชีวิตมากแค่ไหน การหัดสะสมเงินไว้ในเหตุการณ์ฉุกเฉินคือเรื่องสำคัญ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีเงินสำรองไว้ยาวๆ อย่างน้อย 1 ปี และบางที 1 ปีอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไวรัสตัวนี้ยังลากยาวข้ามไปถึงปีหน้า ซึ่งก็มีแนวโน้มไปในทางนั้นเหมือนกัน ขนาดเขียนอยู่ก็ยังรู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกัน
2. เรื่องเงินจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่มีทักษะหรือสกิลที่สร้างรายได้ได้หลายทาง การเปิดโอกาสให้ตัวเองเป็นคนที่มีทักษะและความสามารถมากกว่าหนึ่งทาง คือ สิ่งที่ผมได้ยินจากพ้องเพื่อนบ่อยที่สุด และอาจไม่ได้ระคายเคืองหากจะว่าพวกเขาเป็นมนุษย์เป็ดที่ทำอะไรไม่สุดสักอย่าง แต่ในความไม่สุดสักทาง อย่างน้องชีวิตก็มีทางเลือกเหมือนการสร้างตู้เอทีเอ็มไว้หลายใบนั่นแหละ
สุดท้าย สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป เราได้แต่เก็บบทเรียนให้เกิดประสบการณ์ในการเตรียมพร้อมเพื่อทักษะและความรู้ใหม่ๆ สำหรับโอกาสในวันข้างหน้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าวันข้างหน้าก็ไม่ได้ง่ายเหมือนวันก่อนๆ ในอดีต เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ การใช้ความสามารถมาต่อสู้กับวิกฤตรอบนี้อาจไม่พอ เพราะมันต้องอาศัยจิตใจที่แข็งแกร่งในการสู้รบด้วย และดูเหมือนว่าสงครามครั้งนี้จะยาวนานกว่าที่เราคิดไว้อยู่พอสมควร

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน