บังเอิญไปอ่านบทความ 3 ways to improve your time management skills ซึ่งมีความน่าสนใจเล็กๆ เกี่ยวกับการที่เรามักถูกรบกวนเวลาในการทำงานเฉลี่ย 3 นาที 5 วินาที ซึ่งต้องใช้เวลาในการกลับมาโฟกัสงานนานถึง 23 นาที กับอีก 15 วินาที ซึ่งเป็นผลการเก็บข้อมูลจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
แถมในบทความยังได้คิดความเสียหายในเชิงจำนวนชั่วโมงที่เราจะเสียไปต่อปี รวมถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการถูกรบกวน โดยในบทความนี้ก็ได้มีวิธีมาแชร์ว่าเราควรจะจัดการกับการถูกรบกวนจากเวลาที่จะเสียไปอย่างไร โดยมีการแนะนำให้ทบทวนตารางการทำงานประจำวัน และอย่าสลับหน้าที่การทำงานบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะอาจจะขาดการทำอย่างต่อเนื่อง และกว่าจะใช้เวลากลับมาเชื่อมโยงกับงานที่ทำค้างอยู่ ก็น่าจะเสียเวลาอยู่พอสมควร

แต่มีอยู่ข้อนึงที่อ่านแล้วสนใจเป็นพิเศษ คือ การทำตัวให้เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ถามว่าทำไมละ แล้วมันช่วยประหยัดเวลาได้อย่างไร จากภาพรวมในบทความก็อธิบายว่า การที่เราไว้เนื้อเชื่อใจกันนั้นมันสะท้อนถึงความรับผิดชอบของงานเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว และการที่ถูกรบกวนจากงานอยู่บ่อยครั้ง บางทีไม่ได้เกิดจากความช่วยเหลือใหม่ๆ แต่อาจมีเรื่องของการตามงานเข้ามาผสมด้วย ซึ่งจุดนี้แหละก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่า ถ้าเรารับผิดชอบงานได้ตามที่นัดหมายเอาไว้ หรือสามารถส่งได้ก่อนกำหนด ก็น่าจะช่วยลดทอนการถูกรบกวนในจุดนี้ได้พอสมควร
ที่สำคัญการทำงานในระบบแบบไว้เนื้อเชื่อใจกันนั้น ก็ต้ออาศัยจากความรับผิดชอบของบุคคล และทำให้มันมันกลายเป็นวัฒนธรรมการทำงานของทีมและองค์กรได้จะยิ่งดี เพราะเชื่อว่าไม่มีใครชอบถูกตามจี้ตามจิกเท่าไหร่หรอก ซึ่งระบบแบบนี้นอกจากจะทำให้คนทำงานทุกคนเป็นมืออาชีพในแง่ความรับผิดชอบต่อเวลาแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในการทำงานดีอีกด้วย อารมณ์มืออาชีพทำงานให้กันและกันนั่นแหละ
อ่านแล้วก็หันกลับมามองที่ออฟฟิศ…
ปีนี้เริ่มไปไม่เท่าไหร่เราก็โดนขโมยเวลาไปเยอะเหมือนกันนะ ฮาๆ

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน