ที่คอนโดของผมมีต้นไม่อยู่ต้นหนึ่ง
ตอนซื้อมาแรกๆ มันก็เติบโตดี แตกหน่อ แตกยอดเต็มกระถาง
แต่พอเคลื่อนย้ายมันไปอีกที่หนึ่งเพื่อความสวยงามของตำแหน่งที่จัดวาง
เวลาผ่านไปมันกลับเหี่ยวเฉา โรยรา ไม่สวยงามเหมือนตอนมาแรกๆ เลย
จนภรรยาของผมถึงขั้นจะหยิบต้นนี้ไปทิ้งอยู่หลายครั้ง
และหลายครั้งภรรยาก็ถามว่า มันไม่รอดแล้วเอามันไปทิ้งซะดีกว่า
จะได้ซื้อต้นใหม่มาแทน ให้บรรยากาศห้องมันสดชื่นกว่านี้
.
แต่ผมก็ห้ามเอาไว้ เหตุเพราะ เราอย่าเพิ่งเสียเงิน 55
กับอีกเหตุผลหนึ่งคือ ต้นไม้อาจไม่ได้ผิด แต่เราต่างหากที่ผิดก็ได้
ผมย้อนคิดว่าช่วงแรกที่ต้นไม้เติบโตได้ดี มันควรมีองค์ประกอบอะไรอยู่ในนั้น
นอกเหนือจากการหมั่นรดน้ำทุกวันเป็นประจำอยู่แล้ว
องค์ประกอบสำคัญที่คิดเปรียบเทียบกับชีวิตการทำงาน
นั่นก็คือ การจัดตำแหน่งให้ต้นไม้ได้อยู่ถูกที่ ถูกทาง
นั่นก็คือ ถูกแดด ถูกลม ให้ถูกตำแหน่งนั่นเอง
.
ประโยคที่ผมมักพูดกับภรรยาเป็นประจำกับต้นไม้ต้นนี้ก็คือ
“ให้โอกาสมันหน่อย”
ใช่ครับ ให้โอกาสมันได้แก้ตัวจากความผิดพลาดของเรา
ที่จัดวางมันไม่ถูกตำแหน่งที่เหมาะสม
.
เวลาผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา
เหลือใบเหลืองเข้มเน่า ๆ ที่ดูอาการโคม่าอยู่ใบเดียว
ค่อยๆ มียอดอ่อนแตกขึ้นมา และก็เติบโตมาเป็นใบเขียวให้เราได้เห็น
.
“ให้โอกาสมันหน่อย” เป็นบทเรียนเล็กๆ ที่สำคัญ
โดยเฉพาะกับคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจในทางปฏิบัติและตัดสินใจ
ที่บางครั้งก็ต้องการโอกาสเพียงแค่นี้จากคนมีอำนาจเพื่อพิสูจน์
ในยามที่วางถูกที่ ถูกตำแหน่ง ว่ามันก็มีดีเหมือนกัน
เหมือนในสำนวนภาษาอังกฤษที่เขียนไว้ว่า
“Put the right man on the right jobs”
.
“ให้โอกาสมันหน่อย” ก็ยังสำคัญต่อคนมีอำนาจเหมือนกัน
เมื่อรู้ว่าเรามีส่วนผิดที่ทำให้ต้นไม้มันใกล้ตาย
การให้โอกาสตัวเองเพื่อช่วยเหลือมันอีกสักครั้ง
ก็เป็นเรื่องที่ควรทำด้วยเหมือนกัน
.
“ให้โอกาสมันหน่อย”
ประโยคสั้นๆ แต่กลับต่อลมหายใจให้ต้นไม้
และอีกสรรพสิ่งในชีวิตได้มากมายกว่าที่เราคิดนะครับ

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน