มองโลกในแง่ร้ายมีประโยชน์อย่างไร

1 April 2021

ระหว่างนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน ก็คิดประเด็นไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า การเป็นคนมองโลกในแง่ดี มันก็ย่อมดีอยู่แล้วสำหรับตัวเอง แต่จะมีใครบ้างที่จะใช้ประโยชน์จากการมองโลกในแง่ร้ายบ้างหนอ

คิดไปคิดมาก็นึกออกทันที ผมนึกถึงอาชีพ Financial Advisor หรือนักวางแผนการเงิน ใครที่ทำอาชีพนี้อยู่อย่าเพิ่งมาว่าผมนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมากล่าวร้าย แต่แค่คิดไปในอีกมุมหนึ่งว่าการมองโลกในแง่ร้ายมันมีประโยชน์สำหรับอาชีพที่มองเห็นโอกาสของมัน

เหตุที่นึกออกเพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสเจอน้องคนนึง ซึ่งเราเคยรู้จักกันตอนไปออกค่ายกิจกรรมด้วยกันนานมาแล้ว เธอผันตัวมาทำอาชีพนักวางแผนการเงินเนี่ยแหละครับ แน่นอนการเจอของเธอ ก็ย่อมต้องมาให้ผมทดลองแบบสอบถามเพื่อการวางแผนสำรองต่างๆ

คำถามแต่ละคำถามไม่ได้ชวนคิดว่าเธอสาปแช่งเราแต่อย่างใด เช่น ถ้าเราพิการ ทำงานไม่ได้ ควรจะต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการใช้ชีวิตหรือดูแล หรือหากเราไปจากโลกนี้ก่อนวัยอันควร แล้วคนข้างหลังเราจะดูแลภาระได้ดีแค่ไหน เราควรจัดการอย่างไร หรือการพบเจอโรคร้ายแรง เราควรจะพร้อมรับมือกับโรคเหล่านี้อย่างไร

ในเวลานั้นฟังแล้วก็รู้สึกกลัวพอสมควรครับ ซึ่งผมจับความรู้สึกตัวเองได้ว่ามีความกลัวอยู่สองแบบ คือ กลัวตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก กับ กลัวคนที่เรารักต้องลำบากไปด้วย

แต่พอตั้งสติได้ก็พบว่า การป้องกันความเสี่ยงสำหรับชีวิตในอนาคต การหัดตั้งคำถามในแง่ร้ายกับตัวเองบ้าง ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ถ้าเรามีสติมากพอ และคอยหมั่นคิดทบทวน เพื่อหาทางออกจะด้วยการลงทุนผ่านเงิน หรือการลงแรงอย่างการออกกำลังกาย หรือทำควบคู่ไปด้วยกันได้ก็จะยิ่งดีเลยทีเดียวครับ

เอาเข้าจริง การตั้งคำถามในแง่ร้ายกับตัวเอง เหมือนที่น้องนักวางแผนการเงินได้ถามผมนั้น ผมก็ลองเอามาประยุกต์กับตัวเองในวันถัดมาเล่นๆ เหมือนกันนะครับ เช่น ถ้าอีก 3 ปี อาชีพที่เราทำอยู่วันนี้จะไม่มีอีกแล้ว เราจะมีทักษะอะไรรองรับในการสร้างรายได้หรือไม่

จากนั้นผมก็คิดตั้งคำถามอีกมากมาย ทำนองเหมือนการคิดพล็อตหนังสักเรื่องด้วยการใช้ What If ตั้ง อะไรจะเกิดขึ้นถ้า…

ซึ่งสุดท้ายผมก็พบว่าชีวิตเราล้วนเต็มไปด้วยเงื่อนไข ที่คอยท้าทายให้เราจัดการและเรียนรู้ต่อโอกาสและอุปสรรคที่เข้ามาอยู่เสมอ ถึงแม้เราจะคิดว่า เราเตรียมฟูกรองรับให้แก่ชีวิตทุกๆ ด้านดีแล้วก็ตาม

แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหมดหรอก

ดังนั้น การเผื่อใจถึงความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตนั้น อาจจะเป็นความสมบูรณ์ที่ทำให้เราสบายใจอยู่เล็กน้อย เพราะไม่คาดหวังกับความสมบูรณ์เต็มร้อยมากจนเกินไป

ซึ่งไอ้เศษเล็กๆ ที่ทำให้ชีวิตไม่สมบูรณ์เต็มร้อยนั่นแหละ จะทำให้ชีวิตมีบทเรียนเพื่อการเคลื่อนที่ต่อในโลกที่มีทั้งมุมดีและมุมร้ายให้เราเรียนรู้และเข้าใจชีวิตมากขึ้น

อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4

SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19

APPLE : https://apple.co/2TXdzUr

SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC

YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT

PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *