พอพูดถึงแบรนด์เนม เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง กระเป๋า นาฬิกา แว่นตา และอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านการประทับตราแบรนด์เนมอย่าง LVH Chanel Hermes Gucci Cartier หรือ Dior กันแน่นอนเลยครับ
แต่การคิดจะครอบครองของแบรนด์เนมหรูหราระดับโลกแบบนี้ ก็ต้องมีราคาที่จะต้องจ่ายแพงอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าที่เอ่ยมามูลค่าก็หลักแสน หลักล้าน กันอยู่แล้ว แถมในช่วงโควิดมูลค่าของแบรนด์เนมก็กลายเป็นสินทรัพย์ที่พุ่งทะยานสวนทางสินทรัพย์อื่นๆ ที่เอาแต่ร่วงลงมา จนกลายเป็นว่าใครถือของแบรนด์เนมอยู่ก็ได้กำไรอีกหนึ่งเท่าตัว โดยที่เจ้าตัวยังงงๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
หากถามว่าตอนนี้มูลค่าแบรนด์ไหนที่ติดอันดับบ้าง เรามีการรวบรวมสถิติมูลค่าของการเติบโตแบรนด์เนมจาก Statista มาฝากจากรูปนี้ครับ

จากภาพที่โชว์มูลค่าการเติบโตของแบรนด์ชั้นนำ เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ทีนี้ ถ้าเราอยากจะลงทุนกับของแบรนด์เนมเหล่านี้ แต่งบประมาณของเรามีจำกัด เราจะมีทางไหนที่จะลงทุนได้อีกบ้างไหม ในขณะที่ราคาตอนนี้ทั้งกระเป๋า นาฬิกา ต่างราคาพุ่งเอา ๆ ผมมีอีกหนึ่งช่องทางที่จะมาแนะนำครับ นั่นคือ กองทุนแบรนด์เนม นั่นเอง
หลายคนอาจจะงงว่า อะไรนะ! มันมีกองทุนที่ลงทุนในแบรนด์เนมด้วยเหรอ อยากจะบอกว่าใช่ครับ มีแล้วและมีมาสักพักแล้วด้วยนะ ซึ่งกองทุนที่เราอยากจะแนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สนใจอยากลงทุนแบรนด์เนมจริง ๆ ก็คือ…
กองทุน T-PREMIUM BRAND จาก บลจ. ธนชาติ EASTSPRING นั่นเองครับ
ภาพรวมคือกองทุน T-PREMIUM BRAND เป็นกองทุนแบบ Feeder Fund ก็คือไปลงทุนในกองทุนรวมเกี่ยวกับแบรนด์เนมในต่างประเทศอีกทีเพียงกองทุนเดียว นั่นคือ กอง PICTET FUND ซึ่งเป็นกองทุนที่อันแน่ไปด้วยแบรนด์หรูมากมาย โดยโฟกัสลงทุนใน 120 บริษัทแบรนด์เนมระดับโลก โดยเน้นลงทุนในแบรนด์เนมเป็นหลัก และกระจายการลงทุนแบรนด์เนมในส่วนอื่น ๆ แว่น เครื่องสำอาง น้ำหอม เพชรพลอย อาหาร เครื่องดื่ม ยานยนต์ เป็นต้น

อ้างอิง หนังสือชี้ชวน PICTECT PREMIUM BRAND
ซึ่งในส่วนของกองทุนนี้ก็มีแบรนด์เนมที่เราคุ้นเคยกันอย่าง
– LVMH แบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นพี่ใหญ่คุมตลาดแบรนด์เนมอันดับต้นๆ ของโลก
– MARRIOTT แบรนด์ที่มีเครือโรงแรมชั้นนำกว่า 30 แห่ง และมีห้องพักมากถึง 1.4 ล้านห้องทั่วโลก
– Kering อีกหนึ่งแบรนด์แม่จากฝรั่งเศสที่มาแรงและสร้างตลาดแบรนด์เนมให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น อย่าง Saint Laurent, Gucci, Bottega Veneta, Alexander McQueen, Balenciaga, Boucheron, Brioni, Pomellato, Qeelin และ Ulysse Nardin เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าจากตัวอย่างแบรนด์ที่ยกมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนของ T-PREMIUM BRAND นั้น เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมานั้นเติบโต และคาดการณ์ว่าจะยังเติบโตต่อไปในปีนี้ เนื่องจากหลายประเทศเริ่มมีการเปิดเส้นทางการบินและเปิดประเทศ ทำให้ผู้คนเริ่มเกิดการช้อปปิ้ง ทั้งซื้อเพื่อครอบครองใช้เอง และซื้อเพื่อเก็งกำไรในอนาคตจากมูลค่าของแบรนด์นั่นเอง
ส่วนภาพรวมอื่น ๆ ของกองทุน T-PREMIUM BRAND ที่สำคัญคือ
– เป็นกองทุนแบบ ACTIVE MANAGEMENT ก็คือ -เป็นกองทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนเหนือตลาดลงทุนทั่วไป
– มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ระดับ 7 จาก 8 คะแนนเต็ม
– มีค่าธรรมเนียมบริหารกองทุนโดยรวมไม่เกิน 1.924%
– เป็นกองทุนที่มีนโยบายปันผล
– เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งต่อไปเริ่มได้ 1,000 บาท

ข้อมูล ประวัติการจ่ายปันผล T-PREMIUM BRAND จาก WealthMagik
นี่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจของกองทุน T-PREMIUM BRAND ที่เราลองหยิบยกมาแนะนำให้กับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังให้ความสนใจของแบรนด์เนมที่ตอนนี้ราคาพุ่งเอา ๆ แต่ใจก็อยากจะครอบครอง ซึ่งเราก็สามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง 1,000 บาทในการเริ่มต้นลงทุนในกองนี้ กองทุนแบรนด์เนมที่อัดแน่นไปด้วยแบรนด์ที่เราคุ้นเคย และเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน