สมัยทำงานใหม่ๆ เป้าหมายของผมคือการทำงานให้ดีเพื่อหวังว่าปลายปีจะได้รับโบนัสและเงินเดือนขึ้น
และผมก็ตั้งใจทำงานเหมือนเป็นเด็กนักเรียนดีเด่นที่นั่งหน้าห้องและพยายามทำเกรดให้ดีตามที่วางไว้
ผมเป็นเช่นนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้เจอกับหัวหน้าคนนึง
.
หัวหน้าคนนี้มีลักษณะที่มีบุคลิกภายนอกเป็นคนสบายๆ มาก มีตำแหน่งแต่ทุกคนสามารถเข้าถึงเขาได้ง่ายมาก เวลาใครมีปัญหาอะไรก็มักจะเดินเข้าไปปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานโดยเฉพาะงานด้านการตลาด และกลยุทธ์ นอกเหนือจากเรื่องงานก็ยังมีเรื่องอื่นๆ เช่น หนัง ดนตรี งานศิลปะ กีฬา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าหัวหน้าคนนี้คุยกับคนอื่นได้หมด
.
เหมือนผมเห็น Role Model อยู่เบื้องหน้าว่า คนเก่ง คนมีตำแหน่ง ขนาดนี้ทำไมทำตัวสบายๆ แถมมีความรู้แลกเปลี่ยนได้เยอะมาก และยังทำงานได้ดีอีก เชื่อไหมครับว่า นับตั้งแต่นั้นมาผมก็สังเกตวิธีการทำงานและใช้ชีวิตของหัวหน้าคนนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเจอวิถีบางอย่างที่เขาเผยให้ผมรู้อย่างเป็นกันเอง
.
“เราคิดว่าอยากทำงานด้านกลยุทธ์ไปอีกนานไหม”
หัวหน้าถามผม…ซึ่งผมเองในเวลานั้นก็ไม่แน่ใจแต่รู้ว่าเป็นงานที่สนุกและใช้ความคิดสร้างสรรค์กับข้อมูลเยอะ
“’งานกลยุทธ์ไม่ใช่ว่าเอาแต่คิดเองอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจและใช้ให้เป็นกับผู้คนด้วย” หัวหน้าค่อยๆ คายคำตอบมาให้ผม และอธิบายภาพรวมว่า “อาชีพเราไม่ได้อยู่บนโต๊ะทำงานอย่างเดียว แต่มีข้อมูลอินไซด์มากมายอยู่ข้างนอกด้วย หากถามว่าเราจะไปเก็บข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างไร เราก็ต้องเอาข้อมูลที่พวกเขาสนใจมาแลกกับเรา นี่คือทักษะของ T-Shape Model”
.
ว่าแล้วหัวหน้าก็ดื่มกาแฟและฟังเพลงที่ค้างไว้ต่อไป…
.
ผมได้คำสำคัญอย่าง T-Shape Model มาและก็มาศึกษาต่อว่า คือโมเดลที่อธิบายว่าคนเราควรจะมีความรู้ ความเก่ง ความชำนาญ 1 ด้าน เสมือนเป็นแกนตั้งของตัว T และส่วนที่เป็นบาร์ด้านกว้างของตัว T ก็คือความรู้รอบและสนใจสิ่งต่างๆ หรือการมีทักษะเสริม เพื่อมาช่วยต่อยอดความสามารถที่มีอยู่ให้เกิดทางเลือกและความหลากหลายมากขึ้น
.
หลังจากที่รู้วิธีคิดของหัวหน้าแล้ว ผมก็ลองนำโมเดลเหล่านั้นมาใช้ในชีวิตทั้งในและนอกเวลางาน และก็พบว่ามันเปิดความเชื่อมโยงให้เราได้คิดงานอะไรใหม่ๆ รวมถึงการมีทักษะอื่นๆ เพื่อเอื้อต่อการทำงานมากยิ่งขึ้น
.
กว่าจะรู้ตัวว่านี่คือ วิธีการพัฒนาตัวเองรวมถึงผลงานให้เกิดสิ่งใหม่และความสนุก โมเดลนี้ก็ค่อยๆ ถูกพูดถึงในหมู่คนทำงานอย่างกว้างขวาง กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้มีคนเก่งที่รู้ลึกและรู้กว้างเหมือนหัวหน้าเป็นจำนวนมาก จนเกิดการแข่งขันภายในองค์กร และยิ่งทำให้ศักยภาพขององค์กรสูงขึ้นไปอีก ส่งผลให้โบนัสก็ได้ เงินเดือนก็ขึ้น เรียกได้ว่ายิ้มแย้มแจ่มใสกันไป
แต่สิ่งสำคัญไปกว่านั้นการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่เราสนใจไปเรื่อยๆ ไมได้แค่ช่วยได้รายได้เพิ่มเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสในชีวิตให้ได้ไปเจอสังคมใหม่ๆ ในการทำงานที่ทำให้เราเติบโตมากขึ้น เพราะโอกาสที่เกิดขึ้นนอกจากความสามารถของเราแล้ว บางครั้งก็มาพร้อมกับผู้คนด้วยเช่นกัน
ดังนั้น การเรียนรู้ Skill ต่างๆ ที่อยู่นอกเหนืองานที่เราทำย่อมเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญในการที่จะเติมภาพความสำเร็จให้ในชีวิตการทำงานของเราได้มากเลยทีเดียว

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน