สวัสดีชาวออฟฟิศ 0.4 ทุกคนครับ ผ่านมาแล้วจะครึ่งปีการงานของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง หากใครยังมีงานให้ทำอยู่ก็ขอแสดงความยินดีด้วย หากใครกำลังหาอยู่ก็ขอให้ได้ในเร็ววันนะครับ
พอเอ่ยถึงเรื่องงานแล้วก็มีประเด็นเล็กๆ ที่อยากจะมาแชร์ นั่นคือ งานในฝันกลายเป็นฝันร้ายในเวลานี้
สาเหตุที่เขียนประเด็นนี้ขึ้นมาเพราะได้คุยกับน้องที่มีโอกาสร่วมงานด้วยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กจบใหม่ที่พอลองไล่ไทม์ไลน์ชีวิตของน้องเขาก็พบว่า ช่วงเกิดมาก็เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง ตอนเป็นวัยรุ่นก็เจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ตอนเรียนจบเจอพิษเศรษฐกิจจากโควิด และสิ่งที่หนักกว่าคือ ผลกระทบต่องานในฝันที่พังทลายลงอย่างอาชีพการเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งคิดว่าเป็นงานในฝันใครหญิงสาวหลายคน
ความรักในการบริการ ได้มีเพื่อนร่วมเดินทางไปในสถานที่ที่หลากหลาย และได้ใช้ภาษาในการสื่อสารผู้คน
ทักษะเหล่านี้ที่เคยคิดเคยฝัน และได้มีการเตรียมตัวตั้งแต่ตอนเรียนได้หายไปพร้อมกับวิกฤตที่แทรกเข้ามา และเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่กับเรานานแค่ไหน จากเจเนเรชั่นที่สดใสกลับได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Generation Lock และ Generation Delay ที่เสียโอกาสไปไม่น้อยในช่วงเวลาที่พวกเขาควรจะได้ออกไปเผชิญกับสิ่งที่อยากลองและอยากเจอ
Misha Ketchell บรรณาธิการสื่อแห่ง The Conversation ได้แสดงความคิดเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามการทำงานต่องานในฝันของหลายๆ คนที่ได้รับผลกระทบ ผ่านบทความ When your dream job become a nightmare ไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า
งานในฝันที่หลายคนหลงใหลและจินตนาการไว้ว่าจะได้ทำแบบที่คิดไว้ (Glossy Work) คงเป็นได้ได้ยากพอสมควร และจุดที่พอจะแก้ไขได้คือการเริ่มยอมรับความจริง และควรอัพเดท ปรับตัวกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป
สิ่งที่เปลี่ยนคือการต้องมองหาความต้องการของตลาดว่าโดยภาพรวมแล้วโอกาสอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วทักษะที่เราพอมี สามารถนำไปประยุกต์ใช้อะไรกับโอกาสในการทำงานในเวลานี้ได้บ้าง เหมือนน้องจบใหม่คนนี้ที่นำการมีจิตใจที่รักบริการมาแมตช์กับตำแหน่งงานที่เอื้อให้ใช้ทักษะที่เธอมีอยู่ได้บ้าง
Misha Ketchell แนะว่านี่เป็นการสร้างความบาลานซ์ที่ยังพอให้เราได้ใช้ทักษะที่มีกับตำแหน่งงานในตลาดที่เปิดรับ
แน่นอนว่าฟังดูแล้วอาจจะบอบช้ำทางความรู้สึกของใครหลายๆ คน ที่ตั้งใจอยากจะทำงานที่เคยนิยามและจินตนาการว่างานในฝันจะสามารถเติมเต็มชีวิตที่เหลืออยู่ได้ แต่เมื่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป คนทำงานอย่างพวกเราคงไม่สามารถต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้นัก นอกเสียจากยอมรับและค่อยๆ ปรับตัว
โดยการยอมรับคือ เราอาจต้องเปิดใจเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการ เพื่อการสร้างรายได้มาหล่อเลี้ยงชีวิตให้อิ่มท้อง และนอนหลับอย่างสบายใจว่าเดือนนี้และเดือนหน้า เรายังอยู่รอดได้ด้วยการยังมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนการปรับตัวกับงานในฝันที่หลายคนยังไม่ทิ้ง ก็สามารถลงทุนและลงแรงในช่วงเวลาว่างเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจต่อความหลงใหลที่ไม่อยากให้มันหายไปจากชีวิตได้เช่นกัน
แม้ฟังดูแล้วจะเป็นสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและบีบบังคับให้เราต้องจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ อยู่พอสมควร แต่เราก็หวังว่าฝันร้ายในครั้งนี้จะอยู่กับเราไม่นานและยังพอมีพื้นที่เหลือให้เราได้ทำงานในฝันที่เคยวาดไว้บ้าง
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน