การทำงาน วันหยุดยาว
และเรื่องราวของชีวิตที่เหลืออยู่
เรื่องแรก : การทำงาน
ถ้าใครติดตามผมมาสักระยะ
คงได้เห็นสเตตัสพูดถึงการทำงานบ่อย ๆ
โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา
ผมเองก็เป็นผู้ประสบปัญหาจากการงานเช่นกัน
แต่ในทางกลับกัน
มันยิ่งทำให้ผมตั้งคำถามว่า
เราควรจะทำงานหนักแค่ไหน หนักอย่างไร
และที่สำคัญที่สุดคือ เราทำงานทั้งหมดเพื่อใคร
คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ตอบยาก
แต่มันบอกเราได้อย่างหนึ่งว่า
ถ้าเราเริ่มถามตัวเองแบบนี้ได้
ความหมายโดยนัยคล้ายบอกว่าเรามีทางเลือก
เพียงแต่เรากล้าพอที่จะเลือกไหม ?
เรื่องที่สอง : วันหยุดยาว
วันหยุดยาวที่ผ่านมา
ผมนั่งทบทวนกับคำถามเหล่านี้ที่อยู่ในใจ
ถ้าเรามีความสุขกับการทำงานหนัก
มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเรายอมตัดชีวิตส่วนอื่นไป
ถ้าเราไม่มีความสุขกับการทำงานหนัก
เราต้องตอบให้ได้ว่า แล้วเรามีความสุขกับอะไร
การทำงานอย่างอื่นที่ไม่หนัก แต่สบายใจ
หรืองานที่นิยามในแบบที่เราต้องการจากใจ
ผลตอบแทนจากงานหรือความสุขอื่นที่หลงเหลืออยู่
บางทีก็เป็นคำตอบที่หอมหวาน ถ้าเราเลือกงานที่เราทำ
คำตอบที่ดีที่สุด บางทีแล้วมันคือ
การ “หยุดพัก” แล้วคุยกับตัวเองเป็นช่วง ๆ
เพราะชีวิตเราในแต่ละช่วงไม่เหมือนกัน
เรามีอุปสรรค ปัญหา และวิธีการต่างกันไป
แต่อย่างไรก็ดี เราต้องรู้ตัวดีว่า
ตอนนี้ “เราควรหยุด” หรือ “เราควรไปต่อ”
เรื่องที่สาม : ชีวิตที่เหลืออยู่
สำหรับผมแล้ว
ในวัยใกล้ 40 สิ่งที่ใกล้ชิดมากขึ้น
คือ ความตาย และ การลาจาก
เรามองเห็นการลาจากคนที่รัก
การผลัดเปลี่ยนของรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่
เรามองเห็นเวลาที่อยู่ด้วยกันลดลง
และมันคงใช้เวลาที่เหลือในความทรงจำ
เรามองเห็นโรคร้ายเข้ามาเยี่่ยมเยียน
ทั้งคนที่เรารัก คนที่รักเรา และคนรอบข้าง
ในแง่หนึ่ง เราเองก็เช่นกัน
สภาพร่างกาย ความเหนื่อยล้า
หรือแม้แต่พลังในการใช้ชีวิต
มันค่อย ๆ ลดลงมาทีละนิด ๆ
มันทำให้เราตะหงิดในใจว่า
หรือชีวิตเราจะมีค่าเหลือเพียงเท่านี้
เวลาที่เหลืออยู่เราควรทำอะไร ?
เวลาที่ใช้ไปทุกวันนี้คุ้มค่าไหม ?
เวลาที่ผ่านมามันทำอะไรให้เราบ้าง ?
…ทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่ยากจะตอบ
เรื่องทั้งหมดนี้…
เกี่ยวกับชีวิตและการทำงานอย่างไร ?
ผมคงตอบไม่ได้อย่างเต็มปากว่า
เราควรเลือกทางไหนให้กับชีวิตที่เหลืออยู่
เราต้องใช้เวลาชีวิตเพื่อการทำงานที่เรารัก
เราต้องใช้เวลาชีวิตเพื่อคนที่เรารักและรักเรา
เราต้องใช้เวลาชีวิตเพื่อตัวเรากับสิ่งที่เราเป็น
เพราะแต่ละคนล้วนคิดไม่เหมือนกัน
การให้ค่าของแต่ละคนแตกต่างกันไป
ตามความต้องการ ความรู้สึก และคุณค่าที่ให้
แต่อย่างไรก็ดี
สิ่งเหล่านีเป็นแค่เครื่องเตือนใจ
ให้เราได้กลับมาคิดถึงตัวเองอีกที
ก่อนที่วันพรุ่งนี้จะต้องกลับไปทำงาน
…เหมือนเดิม

พรี่หนอม หรือ แท็กซ์-บัก-หนอม เจ้าของ บล็อกภาษีข้างถนน ผู้สนใจทำให้การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มักแอบคิดเสมอว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าการทำงาน จึงเป็นที่มาของบทความในออฟฟิศ 0.4 กับคอลัมน์ชื่อ “สิ่งที่คนทำงานไม่เคยบอก”