ในช่วงหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านสำหรับการทำงานอยู่ที่บ้าน
ผมนั่งดูสถานการณ์หลายอย่างทั้งตัวคนทำงานประจำ ฟรีแลนซ์ และผู้ประกอบการ
จนสามารถสรุปได้อย่างหนึ่งว่า “เราอาจไม่ได้เก่งขึ้น แต่เราก็ไม่ควรแย่ลง”
ในที่นี้อาจไม่ได้หมายถึงสถานะทางการเงิน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า
การเงินของแต่ละคนนั่นสั่นคลอนมาก
จากการเลิกจ้าง ลดเงินเดือน หรือหยุดรับเงินเดือน
.
แต่สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่พยายามอย่างยิ่งคือการดิ้นรนและเพิ่มเติม
ทั้งทักษะและความสามารถที่ไม่เคยคิดว่าจะมีก็มี ไม่เคยคิดจะทำก็ทำ
อย่างเช่นทักษะการทำอาหาร ขายของออนไลน์ การเรียนคอร์สออนไลน์
หรือแม้กระทั่งการขายสินค้าที่จำเป็นต่อสถานการณ์เช่นนี้
แน่นอนว่ายิ่งสถานการณ์ไวรัสนี้ลากยาวมากขึ้นเท่าไห่ร
คนหนึ่งคนที่ไม่คิดจะหยุดพักในการพัฒนาจะยิ่งมีความสามารถ
และความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้นแบบที่เราอาจไม่รู้ตัวมากขึ้นไปด้วย
เรียกได้ว่าความกลัวค่อยๆ ขับเคลื่อน
ให้เราต้องเติมทักษะให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย
กับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาหา
ด้วยวิธีความสำเร็จเก่าๆ ได้อีกเลย
.
โดยส่วนตัวยังนึกภาพไม่ออกครับ
หากสถานการณ์ดีขึ้นและกลับมาทำงานในภาวะปกติ
สิ่งหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเห็นการเปลี่ยนไป
คือการเปลี่ยนแปลงของศักยภาพรายบุคคล
ที่น่าจะสร้างความแตกต่างก่อนที่เกิดวิกฤต
และไม่แน่ว่าคนทำงานธรรมดาที่เราเคยเห็น
อาจจะกลายเป็นคนเก่งที่ขึ้นมาปกครอง
และบริหารจัดการงานได้ดีอย่างที่เราคาดไม่ถึง
วิกฤตครั้งนี้จึงเหมือนยาขม
ที่บำรุงอาการได้ดีสำหรับบางคน
แต่ในทางตรงกันข้ามกับคนที่เกินจะเยียวยา
ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาหลังจากนี้แล้วว่า
ต้นทุนที่ผ่านมาได้สร้างภูมิคุ้มกันอะไรไว้บ้างกับชีวิต
ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยทั้งชีวิต จิตใจ และทรัพย์สินครับ

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน