อิสรภาพ คือ คำที่ใครๆ ก็โหยหาและหวงแหน
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เราตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ใช้มันสมองอยู่บนตึกสูง จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านแล้วเราก็ทำแบบนี้เช่นเดิมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกษียณอายุ คำถามคือชีวิตลักษณะนี้คืออิสรภาพหรือไม่
รุ่นพี่ของผมเคยตั้งคำถามว่า คนรุ่นผมมีความคิดเห็นต่อการทำงานประจำอย่างไร เป็นคำถามที่เปิดกว้างมาก
ความคิดเห็นของผม ผมชอบงานประจำมากกว่างานอิสระ อาจเพราะผมเป็นคนรับความเสี่ยงได้ไม่สูง และชอบความเป็นระบบในเรื่องรายได้ ที่สำคัญผมชอบสนทนากับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ในขณะที่เพื่อนรุ่นผมกระโดดอออกไปเป็นคนทำงานอิสระกันเยอะ เพราะพวกเขาอยากกำกับชีวิตด้วยตนเอง ไม่ต้องสแกนนิ้วเช้า-เย็น ไม่ต้องทำตามนโยบายของผู้บริหาร ที่สำคัญพวกเขาเชื่อว่าความสามารถที่มีอยู่สามารถสร้างรายได้มากกว่าที่ออฟฟิศทั่วไปมอบให้ได้
ทว่าคนทำงานทั้งสองประเภทก็ยังต้องทำงานอยู่ดี ซึ่งเรามีอิสรภาพในการเลือกงานที่ชอบ และองค์กรที่ใช่ให้แก่ตนเอง ผมว่านี่คืออิสรภาพที่แท้จริง แต่ถ้าไม่สามารถเลือกงานได้ละจะทำอย่างไรกับชีวิตดี
คำถามนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของ ‘Dalton Trumbo’

ในช่วงปี ค.ศ. 1930 Dalton Trumbo เป็นนักเขียนบทที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในแวดวงภาพยนตร์ จนเป็นที่หมายตาของเจ้าของค่ายภาพยนตร์มากมายเพื่อมุ่งหวังมาสร้างเม็ดเงินให้แก่พวกเขา
ความท้าทายในชีวิตของ Dalton ได้มาถึง เมื่อเขาได้แสดงออกว่าฝักใฝ่ในลัทธิคอมมิวนิสต์ ถือเป็นแนวคิดที่อันตรายต่อประเทศอเมริกาในช่วงนั้น เขาเริ่มถูกต่อต้านจากชาวอเมริกัน สุดท้ายส่งผลให้เขาต้องเข้าไปนอนในซังเต จากนั้นถูกปล่อยตัวออกมาและถูกลิดรอนอิสรภาพในการเขียนบทภาพยนตร์ รวมถึงประกาศห้ามค่ายภาพยนตร์ร่วมงานกับเขา
ขณะที่เขายังมีภรรยาผู้เป็นที่รัก และพยานรักอีก 3 ชีวิตที่เขาต้องดูแล จากการถูกลิดรอนสิทธิ์ในการทำงาน ทำให้ Dalton ต้องเสนอตัวต่อค่ายภาพยนตร์อย่างเป็นความลับเพื่อของานทำ โดยห้ามใส่ชื่อเขาลงไปในตำแหน่งผู้เขียนบทภาพยนตร์เด็ดขาด
ชีวิตของ Dalton ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เขาทำงานอย่างหนัก ภายในบ้านของเขามีอยู่สองที่เท่านั้นที่เขาจะใช้เวลาจมปลักอยู่กับความคิดและเครื่องพิมพ์ดีดนั่นคือ ห้องทำงานส่วนตัวที่อัดแน่นไปด้วยกระดาษที่ถูกขย้ำทิ้งจากความคิดที่ไม่ได้เรื่อง และห้องน้ำที่เขามักแช่ตัวลงไปในอ่างอาบน้ำนั่งทำงานควบคู่ไปกับการสูบบุหรี่ ดื่มวิสกี้ และยากระตุ้นประสาท
การทำงานหนักอย่างมีคุณภาพของ Dalton ส่งผลให้บทภาพยนตร์ที่เขาเขียนสามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครอง จนกลายเป็นที่มาของการสืบหาผู้เขียนบทตัวจริง และท้ายที่สุดบุคคลที่ได้รับความเกลียดชังจากชาวอเมริกันจำนวนมากได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบทภาพยนตร์ที่คว้าตุ๊กตาสีทองอันเป็นเครื่องการันตีต่อความสามารถที่ทุกคนยอมรับในความสามารถของเขา ท้ายที่สุด Dalton Trumbo สามารถใส่ชื่อของตนเองลงไปในบทภาพยนตร์ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา รวมถึงสถานการณ์อันตึงเครียดก็ผ่อนแรงลง
ชีวิตของ Dalton อาจไม่ใช่ชีวิตการทำงานที่หลายคนอยากไปยืนอยู่บนจุดนั้น เพราะมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง ความน่ากลัว และเป็นตัวประหลาดต่อกลุ่มคนที่เห็นต่าง แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมาอย่างยาวนาน แต่ในแวดวงการทำงานก็ยังมีคนแบบ Dalton อยู่เสมอให้เราได้พูดถึง
คุณลองมองไปรอบๆ โต๊ะทำงานคุณสิ คุณอาจเห็นบุคคลที่เห็นต่างจากคุณ หรือคนที่คุณเห็นต่างจากเขาอยู่ และต่างฝ่ายก็พยายามพิสูจน์ความเชื่อเพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน ดีกว่าเพียงแค่สาดความเชื่อผ่านน้ำลายใส่กันเท่านั้น
การพิสูจน์ด้วยการลงมือทำต่างหากคือผลลัพธ์ที่มีความน่าเชื่อมากกว่าหากเรายังมีอิสรภาพที่สามารถทำได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ควรลองทำในสิ่งที่เราเชื่อสักตั้ง ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะของคนทำงานประจำหรือคนทำงานอิสระ ซึ่งต่างก็มีกรอบการทำงาน และการใช้ชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ทว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่เรายังมีเหนือกว่า Dalton Trumbo นั่นคือ อิสรภาพที่จะแสดงความสามารถ และคุณค่าของตัวเองได้อย่างไม่อึดอัดและหลบๆ ซ่อนๆ
นี่คืออิสรภาพที่เราควรโหยหา หวงแหน รักษา และเต็มที่กับมัน!
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน