“กูถามหน่อย อะไรคือเหตุผลให้มึงตัดสินใจมีลูก”
“อืม.. ตอบโคตรยากเลย”
—
“งั้นกูลองเดาละกันนะ”
“เอาดิ เผื่อว่ากูจะคิดออก”
“กูว่ามึงอยากให้มีคนดูแลตอนแก่”
“ข้อนี้ตัดทิ้งได้เลยว่ะ”
“เพราะว่าอะไรวะ”
“กูว่ามันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว”
มึงลองคิดดูนะ ถ้ามึงเป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกพ่อแม่ปลูกฝังด้วยความคิดที่จะให้เลี้ยงดูตอนแก่ มึงต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ถึงจะได้ดี มึงคิดว่าเด็กคนนี้แม่งจะมีความสุขจริงๆเหรอวะ
เอาแค่ในยุคของเรา การเลี้ยงดูตัวเองให้รอดโดยที่ไม่ต้องแบกภาระก็เป็นเรื่องที่ยากแล้ว ถ้ามึงจะให้ใครสักคนหนึ่งเกิดมาโดยมีสัญญาว่าต้องเลี้ยงดูมึง กูว่าแบบนี้อย่ามีดีกว่า
แต่ทีนี้มึงต้องแยกประเด็นระหว่าง ลูกที่อยากเลี้ยงดูพ่อแม่จริงๆด้วย นั่นเพราะว่าเขาได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ หรือได้รับความปราถนาดีจนเขาคิดว่านี่คือสิ่งทีต้องตอบแทนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ
—
“โอเค ๆ หรือว่ามึงคิดจะมีลูกเพื่อลดหย่อนภาษี”
“ข้อนี้เป็นได้แค่มุกตลกเวลากูทำเพจเท่านั้น ใครมันจะบ้าอยากลดหย่อนภาษีจนตัดสินใจมีลูกวะ”
“แหมๆๆ ก็แค่หยอกๆๆ”
“เออว่าต่อ”
—
“เอางี้ๆ ความภูมิใจในชีวิตได้ป่ะวะ”
“ยังไงวะ”
“การเลี้ยงคนๆหนึ่งให้ดีขึ้นมาเป็นประชากรที่มีคุณภาพต่อประเทศนี้ ส่งผลต่อความภูมิใจของมึงในการเกิดเป็นคน อะไรแบบนี้ไง”
“เออ กูว่าใช่ ถุ้ย!! ไม่หรอกว่ะ เพราะกูไม่ได้คาดหวังจะให้ลูกกูเป็นคนดี มีคุณธรรม กูอยากให้มันเอาตัวรอดก็พอแล้ว”
“อ้าว มึงนี่แปลกนะ”
“ไม่ได้แปลก กูเองยังไม่ใช่คนดีเลย แล้วมึงคิดว่ากูจะสอนลูกให้เป็นคนดีได้หรอวะ กูว่าสิ่งที่ควรสอนลูกคือ พ่อแม่เป็นคนปกติที่ผิดพลาดได้ ลูกก็เรียนรู้จากพ่อแม่ไป อันไหนดีก็เอาเป็นแบบอย่าง อันไหนไม่ดีก็อย่าทำ แค่นี้ก็พอ”
—
“กูขี้เกียจทายละ เอาเป็นว่ามึงคิดออกค่อยตอบละกัน”
“กูก็คิดไม่ออกหรอกว่ะ กูคิดว่ามันเป็นแค่จังหวะของชีวิตอ่ะ”
“ยังไงวะ”
“โดยปกติ เวลามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในชีวิต มึงจะพยายามหาเหตุผลดีๆให้กับมัน”
การมีลูกมันก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตของคนเราอ่ะมึง มึงอาจจะมองว่า มันคือเหตุการณ์ที่มาเปลี่ยนให้มึงกลายเป็นคนที่ดีขึ้น หรือคุณค่าบางอย่างของชีวิต หรือแม้แต่กรรมลิขิตอะไรก็ได้ แต่มันคือเหตุผลที่จะทำให้มึงมีชีวิตก้าวต่อไปได้ในแบบที่มึงยอมรับได้น้่นแหละ
ถ้ามึงถามกูว่า มึงควรมีลูกไหม กูก็บอกไม่หรอกว่ามึงควรมีหรือไม่มี เพราะเหตุการณ์ในชีวิตแต่ละแบบมันมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่เหตุผลที่มึงเลือกใช้ชีวิต หรือทำความเข้าใจชีวิตนั่นแหละ มันจะทำให้มึงมีความสุขหรือความทุกข์มากกว่า
กูคิดแบบนั้นนะ และกูก็คิดว่าเรื่องนีเป็นเรื่องที่กูอยากจะสอนลูกมาก ให้มันเข้าใจชีวิตว่ามันควรเลือกทางไหน ใชัชีวิตยังไง เพราะชีวิตมันเป็นของมัน ไม่ใช่ของกู
และบางทีถ้ากูเห็นมันเข้าใจสิ่งที่กูสอน มันอาจจะเป็นความสุขของการมีลูกของกูก็ได้ นั่นคือ ความสัมพันธ์ดีๆระหว่างกูกับมัน คือความสุขในชีวิตกูอีกแง่หนึ่ง
…ซึ่งกูว่ามันเป็นสิ่งที่น่าจดจำในฐานะมนุษย์

พรี่หนอม หรือ แท็กซ์-บัก-หนอม เจ้าของ บล็อกภาษีข้างถนน ผู้สนใจทำให้การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มักแอบคิดเสมอว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าการทำงาน จึงเป็นที่มาของบทความในออฟฟิศ 0.4 กับคอลัมน์ชื่อ “สิ่งที่คนทำงานไม่เคยบอก”