16 สิ่งที่ไม่มีใครบอกในโลกแห่งการทำงาน

5 November 2019

1

โลกเปลี่ยนไปเร็วจนความคิดเมื่อวานของเราก็ไม่สามารถมาการันตีต่อการคิดงานให้ออกมาสำเร็จได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ความคิดของเมื่อวานจึงเป็นเพียงบทเรียนและการตั้งสมมติฐานต่อการพัฒนางานไม่ให้มันซ้ำแหมือนเก่าเพื่อให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน

2

ต่อให้ทาครีมเพื่อให้ใบหน้าเยาว์วัย แต่เบื้องลึกแล้ววัยภายในร่างกายก็ไม่สามารถคึกคะนองเหมือนช่วงนักศึกษาหรือทำงานแรกเริ่ม ที่นอนไม่นานก็ตื่นมาทำงานได้อย่างสบายๆ แต่เมื่อชีวิตเลยวัยเข้าเลขสามชีวิตไม่อนุญาตให้ใช้ร่างกายสิ้นเปลืองแบบนั้นบ่อยๆ ได้อีกแล้ว

3

คนใจเย็นคือคนมีกำไรโดยพื้นฐาน ยิ่งมีเลขสามนำหน้า ยิ่งทำให้เป็นคนใจเย็นกว่าเดิมหนึ่งเท่าตัว เพราะเรามองเห็นต้นทุนของเวลาจาการใช้อารมณ์กำกับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อปัญหาเกิด หากเราใช้ความร้อนนำ เราจะเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น และจบลงอย่างไร ในทางตรงกันข้าม หากเราใช้ความเย็นนำ เวลาที่เท่ากันกับการใช้ความร้อนทางอารมณ์นำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกว่ากันเยอะทีเดียว

4

สุขภาพที่ดีไม่ใช่รูปร่างที่สวยหล่อแบบที่เราเคยมอง หากแต่เป็นมุมมองของอารมณ์ที่ขบขันต่างหาก ที่ไม่ได้ชวนให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีเพียงคนเดียว แต่ยังทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย ไม่ว่าบุคคลที่อยู่ใกล้จะเป็นครอบครัว คนรัก เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งเด็กเสิร์ฟอาหารก็ตาม

5

การตื่นเช้าเป็นประจำ คือ กำไรชีวิตแบบที่ตำราหลายเล่มบอกไว้ผ่านบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่มีเวลาจัดการชีวิตเพิ่มเท่านั้น แต่ยังตื่นมาเจอหน้าคู่ชีวิต และมีเวลาจัดการและทบทวนชีวิตตัวเองจากอาหารเช้าและกาแฟที่ลงมือทำด้วยตัวเองทุกมื้อ

6

วัยที่ผ่านไปสอนให้เราเข้าใจว่า การทำงานทุกวันนี้เงินเดือนคือผลลัพธ์ที่ว่างจ้างต่อความเหมาะสมสำหรับการทำงานเท่านั้น แต่คอนเซปต์การทำงานที่เราได้ค่าจ้างทุกเดือน คือการเข้าไปแก้ไขปัญหาเข้ามาให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง คนทำงานที่เก่งคือคนที่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเก่ง และสามารถสร้างพัฒนาการให้แก่ตัวเอง ลูกทีม และบริษัทที่ทำอยู่ได้ ดังนั้น การบ่นเรื่องปัญหาในที่ทำงานจึงเป็นการรู้สึกกับคอนเซปต์งานที่ได้รับ แต่อยู่ที่ว่าแก้ไขด้วยวิธีคิดและขั้นตอนใดต่อไป

7

หนังสือ ภาพยนตร์ และดนตรี เป็นวัตถุดิบในการเชื่อมโยงกับคนอีกเจเนอเรชั่นผ่านการพูดคุย แลกเปลี่ยน และการแสดงความคิดเห็นด้วยการใช้ประสบการณ์มาเป็นเฟรมเวิร์กเพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่างจากการเสพสารที่เหมือนกันแต่ตีความออกมาแตกต่างกันได้อย่างน่าสนใจ

8

คำว่า ‘ลองดู’ คือการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงวิธีคิด และโอกาสในชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจนำพาชีวิตไปเจออะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะศักยภาพการทำงานที่เราอาจไม่เคยรู้ตัวเลยว่าสามารถทำได้ และบางครั้งก็ทำได้ดีกว่าที่ตัวเองคิดไว้ ฉะนั้น จงลองดูกับโอกาสที่เข้ามา อย่างน้อยมันก็เป็นบทเรียนที่น่าจดจำในยามสำเร็จ หรือน่าขำขันเมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับความล้มเหลวก็แค่นั้น

9

ต่อให้เงินเดือนมากขึ้นกว่าสมัยทำงานแรกๆ แต่วินาทีแรกที่รับเงินเดือนที่มากกว่าเดิม จงบอกตัวเองว่าให้ใช้ชีวิตเหมือนเงินเดือนเดือนแรกที่ได้รับ สำหรับผมวิธีคิดแบบนี้มันทำให้ชีวิตในวัยสามสิบง่ายขึ้นกว่าวัยยี่สิบเยอะมากๆ กินง่าย อยู่ง่าย และหัดให้รางวัลตัวเองด้วยของใช้ที่อยากได้ หรือตั๋วเดินทางไปต่างประเทศสักใบในวาระโอกาสที่เหมาะสมก็พอ

10

การลงทุนยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง แต่อย่าลงกลจนติดกับดักมันมากจนเกินไป เพราะอย่าลืมว่าคอนเซปต์ของการลงทุนคือเครื่องมือการเพิ่มมูลค่าต้นทุนที่มีอยู่ให้งอกเงยไปกับเวลาที่เดินหน้าไปเรื่อยๆ มิใช่ทำให้คนรวยขึ้นทันตาเห็น  ซึ่งการจะรวยได้นั้นมันเกิดจากการสร้างสรรค์รายได้ที่เกิดจากความคิด และความสามารถที่เราสร้างขึ้นมาเสียเป็นหลักใหญ่ต่างหาก

11

แม้ว่าอายุจะเยอะขึ้น แต่การอนุญาตให้ตัวเองตามใจปากในสิ่งที่อยากกินก็คือการมอบรางวัลให้ชีวิตแบบหนึ่ง นี่คืออีกเรื่องหนึ่งที่เรียนรู้ว่าอย่าเข้มงวดกับรสชาติของชีวิตที่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขชั่วคราวมากนัก เพราะการรับรู้รสชาติความอร่อยคือกลไกการเติมเต็มความสุขให้ชีวิตอีกหนทางหนึ่ง

12

เมื่อคนในทีมทำงานดีจงเอยปากชม และหากเราทำงานพลาดจงเอยปากขอโทษ นี่คือโบนัสที่มอบให้กันง่ายที่สุด แต่คนส่วนมากกลับไม่ค่อยเลือกใช้

13

ยิ่งอายุมากขึ้น การเอยปากเพื่อให้คำมั่นสัญญาต่อการทำงานจึงต้องพิถีพิถันและใส่ใจมากกว่าแต่ก่อน เพราะมันแสดงถึงวุฒิภาวะที่มีและความเป็นมืออาชีพกับเส้นทางที่เราเลือกจะเดินทางต่อไปอีกหลายสิบปีในอนาคต

14

เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและกายภาพของผู้หลักผู้ใหญ่ในชีวิตหลายคนแบบทั้งเป็นด้วยโรคอยู่และตายจากแบบธรรมชาติในช่วงหนึ่งของชีวิต นั่นคือสัญญาณจากธรรมชาติว่าเราได้เข้าสู่แดนเติบโตของจิตใจอีกขั้นหนึ่งแล้ว

15

งานก็สำคัญ คนข้างกายก็สำคัญ สุขภาพยิ่งสำคัญ หมุนเวียนเรื่องพวกนี้ให้ดี เมื่อทุกอย่างดีแล้วจะทำให้ชีวิตมองเห็นโอกาสในการทำอย่างอื่นเพื่อสร้างความสุขแบบที่มีรายได้และไม่มีรายได้แบบพึ่งพอใจเป็นการหล่อเลี้ยงชีวิตได้เหมือนกัน  

16

การให้เกียรติตัวเองคือสมบัติอันล้ำค่า ถ้าเราไม่สามารถรักษาได้แล้ว ก็ไม่มีใครในโลกนี้รักษาให้เราได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *