3 สิ่งที่ผมเรียนรู้เมื่อลาออกจากงานประจำ
และความเจ็บช้ำในการทำงานเป็นฟรีแลนซ์
1
ไม่มีงานที่ดีและรักที่สุดตลอดไป
มีแต่งานที่เราพอใจในแต่ละช่วงเวลา
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
เราจะเหมาะสมกับงานแบบหนึ่ง
แต่เมื่อประสบการณ์เรามากขึ้นเรือยๆ
ร่วมกับความเหนื่อยยากในการใช้ชีวิตที่เจอมา
งานอีกแบบหนึ่ง
กลับจะเหมาะกับเรามากกว่า
ดังนั้น ไม่ว่าตอนนี้คุณจะทำอะไรอยู่
สิ่งที่คุณต้องรู้และตอบตัวเองให้ได้คือ
คุณเก็บสะสมประสบการณ์งานที่ทำอยู่ไว้เพื่ออะไร
เพราะสักวันหนึ่ง คุณต้องใช้มัน
เมื่อประสบการณ์มันเข้ามาเปลี่ยนผ่าน
หรือความต้องการใช้ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงไป
2
เราไม่มีสิทธิคิดแทนใครว่างานแบบไหนดีกว่า
เรามีหน้าที่ทำงานตรงหน้าของตัวเองให้ดีที่สุด
เวลาผมเขียนบทความเรื่องแนวนี้
จะมีคนแย้งเสมอในทิศทางตรงข้าม
ถ้าผมเขียนว่าอย่าลาออกถ้าไม่พร้อม
ก็จะมีคนแย้งทันทีว่าความพร้อมไม่มีจริง
ถ้าผมเขียนว่างานอิสระนั้นดีมากมาย
ก็จะมีคนทำลายด้วยคำพูดว่างานประจำดีกว่า
บทเรียนพวกนี้สอนผมว่า
เราสามารถแนะนำคนอื่นได้
แต่เขาไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนเรา
และ
เราไม่ควรเอาสิ่งที่เราเจอมา
ไปบอกใครเขาว่าควรเป็นแบบนั้นแบบนี้
ชีวิตของคนแตกต่างกัน จริตล้วนผิดแผก
เราจึงทำได้แค่แบกเฉพาะสิ่งที่เราเป็น
แต่ไม่ใช่เคี่ยวเข็ญให้คนอื่นเป็นเหมือนเรา
เพราะว่าเราไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตใครได้
ถ้าหากชีวิตเขาพังทลายขึ้นมาจริงๆในวันหนึ่ง
3
ทุกอาชีพมีความเจ็บช้ำที่แตกต่างกัน
อย่างฟรีแลนซ์ที่เราเรียกว่า “งานอิสระ”
ยังคงมีกรอบของความไม่อิสระครอบอยู่
เราไม่สามารถอิสระจากงานได้ 100%
แต่เราอิสระในแบบที่ตัวเราเป็นได้
การบริหารเวลาเป็นสิงสำคัญ
การทำความเข้าใจตัวเองยิ่งสำคัญกว่า
ผมเคยคิดว่า ลาออกมาแล้วงานจะสบายขึ้น
มีชีวิตได้ตามที่ต้องการ – ยามที่ฝันไว้
แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่างมา
แน่นอนว่า ตรงนี้ต้องมีคนแย้งขึ้นมาได้ว่า
ที่บอกว่ามีปัญหาเพราะบริหารเวลาไม่ได้หรือเปล่า
คำตอบ คือ ใช่และไม่ใช่
ผมมีเวลาในสิ่งที่อยากทำเพิ่มขึ้น
แต่ก็ต้องใช้เวลากับสิ่งที่ไม่อยากทำมากขึ้นเช่นกัน
เพื่อให้ตัวเรายังสามารถทำงานที่อยากทำได้อยู่
งานทุกอย่างมีความเจ็บช้ำต่างกัน
อยู่ที่เรายอมรับความเจ็บช้ำหรือข้อเสียแบบไหนได้
สุดท้ายเมื่อรวมกันทั้ง 3 ข้อ
สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำไว้ คือ
- จงหางานที่เหมาะกับตัวเองในขณะนี้
- จงหาวิธีสร้างประสบการณ์ให้มากขึ้น
- จงก้าวผ่านปัญหาและความเจ็บช้ำในงาน
- สุดท้ายเราจะเก่งขึ้นและพํฒนาต่อไป
- และที่สำคัญที่สุดคือ
“จงใส่ใจชีวิตตัวเองมากกว่าคนอื่น”
แล้วความขมขื่นจะกลายเป็นเรื่องที่หอมหวาน
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com

พรี่หนอม หรือ แท็กซ์-บัก-หนอม เจ้าของ บล็อกภาษีข้างถนน ผู้สนใจทำให้การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มักแอบคิดเสมอว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าการทำงาน จึงเป็นที่มาของบทความในออฟฟิศ 0.4 กับคอลัมน์ชื่อ “สิ่งที่คนทำงานไม่เคยบอก”