5 ข้อคิดจากซีรี่ย์ Itaewon Class ที่มนุษย์เงินเดือนควรดูในวันหยุดสุดสัปดาห์

10 March 2020

Itaewon Class เรื่องราวของชายหนุ่มผมทรงเกาลัดที่ชื่อพัคแซรอย ผู้มีความเชื่อและศักดิ์ศรีแห่งความถูกต้อง ที่ต้องสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักจากอุบัติเหตุทางอย่างมีเงื่อนงำ รวมถึงอนาคตของตัวเองจากการเข้าไปนอนในซังเตถึง 3 ปี ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายลูกชายของเจ้าสัวรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหาร

เมื่อความเชื่อ ศักดิ์ศรี และการสูญเสียที่ไร้ความยุติธรรมก่อตัวขึ้น ทำให้พัคแซรอยมีเป้าหมายในชีวิตอย่างเดียวคือการโค่นล้มธุรกิจของเจ้าพ่อเพื่อเป็นการล้างแค้นการพรากทุกสิ่งอย่างในชีวิตไปจากเขาให้จงได้

คำถามสำคัญคือ ทำไม Itaewon Class จึงกลายเป็นซีรี่ย์ที่คนดูติดกันงอมแงม และยังเป็นแรงใจของคนวัยทำงานตัวเล็กๆ อย่างเรา นี่คือ 5 เหตุผลจากมุมมองของออฟฟิศ 0.4

1. ตัวแทนของคนทุนน้อยที่ลุกขึ้นสู้

พัคแซรอยคือตัวแทนของชนชั้นกลางคนหนึ่งที่มีความเชื่อในความถูกต้อง และยังเป็น Introvert ตัวพ่อในช่วงแรกอีกด้วย แต่การถูกผู้มีอำนาจข่มขู่และคุกคามกับคนที่มีความเชื่อมากขนาดนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผน อดทน เพื่อสร้างโอกาสในการโค่นล้มเจ้าสัวและธุรกิจของเขาในอนาคต

2. เหตุการณ์ในเรื่องในโลกจริงนั้นมีอยู่

เหตุการณ์ในซีรี่ย์เรื่องนี้ ถึงแม้จะมีการบอกว่าเป็นเหตุการณ์สมมติ แต่เชื่อว่าหลายคนที่ดูอยู่ก็สัมผัสได้ว่ามันมีกลิ่นมาจากความจริงในบางส่วนของโลกทุนนิยมที่เราน่าจะรู้ๆ กัน โดยเฉพาะโลกธุรกิจอันแสนเหี้ยมโหด ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน กลั่นแกล้ง และการเดินหมากด้วยกลยุทธ์มากมาย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หลายคนดูแล้วรู้สึกสัมผัสได้ว่ามันสะท้อนมาจากโลกแห่งความเป็นจริง

3. เป็นความฝันของคนส่วนใหญ่

พัคแซรอยเสมือนตัวแทนของความฝันของคนชนชั้นกลางส่วนใหญ่ ที่อยากมีกิจการขนาดย่อมของตัวเอง ที่ต้องผ่านการศึกษาหาความรู้ สร้างทีม สร้างสินค้า สร้างบรรยากาศ และพันธมิตรรอบด้าน ที่ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไปได้ พัคแซรอยจึงเป็นทั้งตัวแทนของชนชั้นและเจเนอเรชั่นใหม่ในปัจจุบันที่อยากลืมตาอ้าปากได้ด้วยธุรกิจของตัวเอง และทางเลือกใหม่ๆ ของตลาดผู้บริโภค รวมถึงความฝันในการทำงานด้วยการเป็นเจ้าของกิจการในฝันด้วยเช่นกัน

4. ตัวละครแวดล้อมมีเสน่ห์ ทั้ง ความสามารถที่เหนือการศึกษา และ ทรานเจนเดอร์

ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกเหนือจากตัวเอกอย่าง พัคแซรอย ที่มีภูมิหลังในการขับเคลื่อนเรื่องเพื่อการแก้แค้นกับสิ่งที่สูญเสียแล้ว องค์ประกอบจากตัวละครอื่นๆ ก็ทำให้เรื่องเข้มข้นและชวนติดตามประเด็นอื่นๆ ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

จางกึนวอน ลูกชายของเจ้าสัวจางแดฮี ตัวละครที่ทุกอย่างเพียบพร้อมทั้งสถานะ ตำแหน่ง ความร่ำรวย แต่ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ความฉลาด รอบคอบ ซึ่งตรงกันข้ามกับ พัคแซรอย และเหมือนเป็นตัวละครที่ถูกสร้างมาให้เป็นขั้วตรงข้ามกับตัวเอง เพื่อเชิดชูฝ่ายมวยรองไว้มีความหวังเล็กๆ ในการเป็นช่องทางการแก้แค้นได้นั่นเอง  

โอซูอา เพื่อนหญิงสมัยเรียนมัธยมของพัคแซรอย ที่มาด้วยรูปร่างหน้าตาอันสวยงาม ซึ่งหลายคนเชียร์ให้พัฒนาความสัมพันธ์กับพัคแซรอยให้ลงเอยด้วยกันเสียที แต่สถานะก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะสุดท้ายเธอได้ทุนเรียนและเข้าทำงานกับบริษัท ชางกา บริษัทของเจ้าสัวที่เป็นคู่แข่งของพัคแซรอยนั่นเอง

โชอีซอ หนึ่งในตัวละครที่เป็นตัวแทนของคน Gen Z ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง ไอคิวที่สูง เป็นอินฟลูเอนเซอร์ในโลกออนไลน์  แถมมีความสามารถเกินอายุในการทำธุรกิจและมุมมองทางการตลาด ที่ได้เข้ามาช่วยให้ร้านอาหารทันบัมของพัคแซรอยเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

มาฮยอนอี พ่อครัวหน้าหวานของร้านทันบัม เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เป็นตัวแทนของ Transgender (ผู้หญิงข้ามเพศ) ที่ช่วงแรกไม่ถูกการยอมรับจากสังคม แต่แล้วก็ค่อยๆ ใช้ความสามารถพิสูจน์ว่า ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็สามารถทำงานที่รักได้ดีไม่แพ้ชายและหญิงเหมือนกัน แถมหน้าตาที่น่ารักและอ่อนหวานของ มาฮยอนอี ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีพัฒนาการและความเพลินเพลิดในการติดตามรองจากตัวละครหลักอยู่เรื่อยๆ นั่นเอง

5. โลกธุรกิจที่ไม่ได้มองแค่ตัวเอง แต่ต้องรอดไปด้วยกัน

แม้ในขณะที่เขียนอยู่ซีรี่ย์เรื่องนี้ยังดำเนินไปไม่จบ แต่เราก็พอได้รับบทเรียนบางส่วนจากโลกแห่งความเชื่อของพัคแซรอย และการทำธุรกิจร้านอาหารของเขามาไม่น้อยครับ

  • ธุรกิจจะรอดคนเดียวไม่ได้ แต่สิ่งแวดล้อมรอบข้างต้องรอดไปด้วยกัน บทเรียนจากการที่พัคแซรอยได้แนะนำร้านข้างให้ดึงจุดเด่นและสร้างบรรยากาศจนหลายร้านรอบข้างดีขึ้น รวมถึงร้านของเขาเอง
  • หน้าร้านสวยงามอย่างไร หลังร้านต้องสวยงามด้วยความสัมพันธ์ด้วย บทเรียนนี้เห็นได้ชัดตั้งแต่การเลือกคนเข้าทำงานของพัคแซรอย เขาไม่ได้มองแค่ผลกำไรและขาดทุน แต่ยังมี Sense of Entrepreneur เรื่องของการบริหารความรู้สึกของผู้คนได้เป็นอย่างดีด้วย
  • การเป็นเจ้าของไม่ได้นั่งอยู่บนหอคอย แน่นอนว่าธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ไม่มีทางที่เจ้าของจะนั่งเฝ้านับเงิน แต่พัคแซรอยยังลงมือทำเองทุกกระบวนการ เพื่อเรียนรู้ทุกองค์ประกอบของร้านไปพร้อมกับพนักงานทุกส่วนอีกด้วย
  • ถ้าลูกน้องไม่มีความสุข เจ้าของก็อยู่นิ่งไม่ได้ บทเรียนจากการที่ร้านของทันบัมได้ผลกระทบจากการถอนหุ้นของนักลงทุน ทำให้ต้องวางแผนการระดมทุนครั้งใหม่ โดยสอนพัคแซรอยให้หัดวางศักดิ์ศรีชั่วคราว เพื่อประคองสถานการณ์ด้วยการเปิดทางระดมทุนจากนักลงทุนคนอื่นๆเพื่อรักษาสภาพคล่อง และการอยู่รอดของร้านและลูกน้องที่ต่อสู้กันมา

ยังมีประเด็นอีกมากมายในซีรี่ย์เรื่องนี้ ที่ในฐานะคนทำงานประจำคนหนึ่ง อยากชวนให้ทุกคนที่ยังไม่เคยดู ได้มีโอกาสดูไปด้วยกัน เพราะนี่คือซีรี่ย์อีกหนึ่งเรื่องที่ทั้งกระตุ้นความฝันและแรงบันดาลใจของเราที่มอดไหม้ให้ลุกขึ้นมาทำตามความฝันที่เคยคิดไว้ให้เกิดขึ้นอีกครั้งก็ได้  

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *