ยุคสมัยทำให้เราต้องแข่งกับตัวมากขึ้น
คำว่ามากขึ้นคือการพยาม…
.
สะสมทักษะ
สะสมความรู้
สะสมผลงาน
ให้มากขึ้นทุกวัน
.
จนกลายเป็นคอนเซปต์ในชีวิตของใครหลายคนไปแล้วว่า
ฉันอยากจะเก่งขึ้นในทุกๆ วัน
จากการต้องทำสิ่งที่จะทำให้ชีวิตและการทำงานเราดีขึ้น
.
ซึ่งสิ่งที่เราทำทุกๆ วันมีศัพท์ที่เรียกว่า “Dailyish”
เป็นคำที่ Oliver Burkeman
ผู้เขียนหนังสือ Four Thousand Weeks อ้างอิงไว้
.
Dailyish เหมือนจะเป็นเชิงบวก
แต่หากวันไหนที่เราไม่สามารถทำสิ่งที่เราคาดหวังไว้ได้
ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวังในตัวเองได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะคนประเภท Perfectionist
.
ซึ่งเราเองก็เคยเป็นแบบนี้เช่นกัน
ทำ To Do List ไว้แต่ผลลัพธ์กลับพังยับเยิน
เพราะความวุ่นวายต่าง ๆ ที่ไม่ได้คาดคิดไว้
.
การพยายามเป็นคนเก่งในทุกๆ วันมากเกินไป
ก็เป็นการสร้างความเปราะบางให้กับชีวิตได้มากเช่นกัน
.
การหัดเป็นคนยืนหยุ่น
มองความไม่สำเร็จเป็นส่วนหนึ่งของความสมบูรณ์
ก็วิธีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติกับชีวิตได้
.
เขียนแล้วก็นึกถึงคำให้สัมภาษณ์ของป๋าเต็ด ยุทธนา
ที่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิต
.
ภาพรวมป๋าเล่าว่า
รู้ตัวว่าชอบอะไร สนใจอะไร และก็ทำสิ่งนั้น
แต่กลับไม่ได้คาดคั้นเป้าหมายในชีวิตขนาดนั้น
.
คำสำคัญที่จำได้คือ
ป๋าปล่อยให้ชีวิตไหลไปตามจังหวะธรรมชาติ
หรือที่เรียกว่า “Go with the flow”
ปล่อยให้ลอยไป แล้วสนุกกับสิ่งที่พบเจอ
สนุกไม่ใช่ไม่จริงจัง เราสามารถจริงจังได้
และทำให้มันดีที่สุดเมื่อมีโอกาสในชีวิต
.
ซึ่งคิดว่าวิธีคิดแบบนี้เอามาใช้กับ Dailyish ได้
มีเป้าหมาย ทำให้ดีที่สุด สมหวังก็ดี ผิดหวังบ้างก็ได้
มันมีอุปสรรค และอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้
แต่นั่นมันเป็นจังหวะของธรรมชาติ
ที่ย้อนกลับมาทำให้เรารอบคอบขึ้น เก่งขึ้น ลึกขึ้น
และเข้าใจชีวิตแบบ Dailyish มากขึ้นว่า
.
ชีวิตที่สมบูรณ์และสำเร็จมากเกินไป
มันอาจไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก
.
ผิดพลาด ผิดหวังบ้าง
ไม่งั้นชีวิตคงจะขาดสีสันไม่น้อย
ถ้าทุกมุมของชีวิตมีแต่ความสำเร็จ
เขียนแล้วก็เหมือน Loser มาปลอบใจกันเอง
แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ นะ

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน