วันหยุดสุดสัปดาห์ หากผมไม่ต้องรีบร้อนออกไปไหน ผมจะชวนแม่ออกมาดื่มกาแฟเป็นประจำ เพราะเราสองคนเป็นคอกาแฟทั้งคู่ แถมยังชอบกาแฟรสเข้มเหมือนกันอีกต่างหาก จึงอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่มีปัญหา
ร้านกาแฟร้านนี้ ราคาไม่แพง คุณภาพคับแก้ว รสชาติกลมกล่อม เข้มสัมผัสได้ถึงรสกาแฟ ถึงแม้เมนูที่เราสั่งจะมีส่วนผสมความหวานจากนมจืดและนมข้นก็ตาม ทว่าไม่หวานเหมือนกาแฟเจ้าอื่นที่เคยลิ้มลองมา
ข้อสำคัญกว่านั้นคือ ร้านนี้ยังเป็นร้านกาแฟที่ใช้น้ำแข็งเกล็ด เมื่อเราดูดกาแฟจากหลอดแล้ว ยังได้เกล็ดน้ำแข็งติดมาให้ได้เคี้ยวกรุบๆ อย่างเพลิดเพลินอารมณ์ ตรงข้ามกับร้านอื่นๆ ที่นิยมใช้น้ำแข็งหลอดเสียเป็นส่วนใหญ่
วันนั้นแม่กับผมเข้าไปซื้อกาแฟร้านประจำ แม่เอยปากว่าไปดื่มร้านไหนก็ไม่ถูกปากเท่าร้านนี้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พนักงานยิ้มรับและเล่าให้แม่ฟังว่า จริงๆ ทางร้านอยากให้เปลี่ยนจากน้ำแข็งเกล็ดเป็นน้ำแข็งหลอดนานแล้ว แต่เธอพบว่าเจ้าน้ำแข็งเกล็ดนี่แหละที่ทำให้การดื่มกาแฟอร่อยมากขึ้น
ทุกครั้งที่มีการมาประเมินคุณภาพร้าน สาขานี้จะถูกหักคะแนนเรื่องน้ำแข็งเป็นประจำ แต่พนักงานที่ดูแลสาขานี้ยังเชื่อมั่นต่อผลลัพธ์ยอดขายที่ได้มากกว่าสาขาอื่นๆ ซึ่งยังคงทำได้ดีเสมอมา
ผมนำเรื่องนี้กลับมาคิด และพบว่าการตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งของพนักงานคน แถมยอมเสียคะแนนประเมินอีกต่างหาก เพื่อรักษามาตรฐานและความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่นั้น ฟังแล้วเป็นเรื่องที่อาจหาได้ยาก แต่ผลลัพธ์ยอดขายก็คงคุ้มค่าพอที่ทำให้เธอยอมรักษาความเชื่อนั้นที่วัดออกมาเป็นตัวเลขให้คงอยู่ได้
เมื่อเขียนถึงประเด็นการรักษาความเชื่อและอาจลามไปถึงตัวตน ก็ทำให้ย้อนนึกถึงการเติบโตในแต่ละช่วงวัยว่าช่วงไหนบ้างที่เราเป็นเรามากที่สุด เป็นเราในแบบมีความสุขและผู้คนรอบข้างรับเราได้
ชีวิตมัธยมคือคำตอบจากคำถามด้านบน เป็นช่วงที่เผยความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่ เป็นช่วงที่ไม่ต้องมีสถานะเล็ก ใหญ่ หรือ สูง ต่ำ ให้คอยปรับเปลี่ยนเพื่อเอาใจเราไปใส่ใจเขา ทว่าสักวันหนึ่งเราก็หนีไม่รอดคอนเซปดังกล่าว เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน โลกที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทั้งสถานะ ตำแหน่ง และเส้นทางการเติบโต ฯลฯ
ผมเคยนั่งคุยกับรุ่นน้องที่ทำงานคนหนึ่ง เราคุยกันเรื่องงานและการปรับตัวทุกครั้งที่มีการย้ายงาน หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีแง่คิดหนึ่งที่รุ่นน้องคนนี้พูดไว้ได้อย่างน่าขบคิด
รุ่นน้องบอกว่า ในโลกการทำงาน เราไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกพี่ ผมถามว่าถ้าเราไม่เป็นตัวเราแล้วเราจะเป็นใครได้
ทันทีที่ผมถามรุ่นน้องก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า เมื่ออยู่ในที่ทำงานเปอร์เซ็นต์แห่งความเป็นตัวเราจะถูกลดถอนลงมาเพื่อให้ทำงานอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ เหมือนเป็นสัญชาตญาณ เพื่อการเอาตัวรอดนั้นแหละ
เราอาจเป็นตัวเราได้เกินครึ่ง แต่ไม่มีทางเต็มร้อยแน่นอน มีปัจจัยมากมายเช่น สถานะหรือตำแหน่งที่เราได้รับก็ทำให้เราแสดงตัวอย่างหนึ่งกับหัวหน้า หรือใช้คำพูดอย่างหนึ่งกับลูกน้อง มีระยะห่างระดับหนึ่งกับคนนอกแผนก
ทุกอย่างมันถูกหักเปอร์เซ็นต์ความเป็นตัวเรามากมาย เมื่อเราต้องอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของเรา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด มันคือเรื่องทักษะของการปรับตัวอยู่ด้วยกันในพื้นที่ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่แตกต่าง ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างรายได้ให้องค์กร หรือใช้ความสามารถของตัวเองให้คุ้มกับผลตอบแทน
ในทางตรงกันข้าม บุคคลที่แสดงอัตตาตัวเองเต็มร้อย มักอยู่ที่ทำงานได้ไม่นานพี่ว่าไหม ผมฟังแล้วลองประมวลจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ
เนื้อหาที่รุ่นน้องคนนี้พูดชวนผมคิดนั้น ก็พบข้อเท็จจริงหลายๆ อย่าง ถามว่าการที่เราพูดคุยกับน้องๆ พี่ๆ ที่ทำงาน เราก็มีความระมัดระวังในการใช้คำพูด และการยับยั้งและแสดงอารมณ์เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งมากที่สุด นั่นเพราะพื้นฐานความเป็นมนุษย์ทุกคนอยากถูกเป็นที่รัก
ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นตัวของตัวเองไม่อยากเป็นเช่นนั้น หากแต่นั่นอาจเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งว่า การเป็นตัวของตัวเองนั้นจะเป็นตัวกรองบุคคลสำคัญที่เห็นแก่นแท้ของพวกเขาและยอมรับได้อย่างดีที่สุด
เราทุกคนล้วนมีความเชื่อและตัวกรองคนรอบข้างเข้ามาในชีวิต และความราบรื่นในการทำงาน ถึงแม้ว่าเราจะต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปบ้าง หรือคนรอบข้างที่ยอมรับความเป็นตัวเองแบบเต็มอัตตาไม่ได้
มีได้ย่อมมีเสียเป็นธรรมดา อยู่ที่ว่าสิ่งที่เราเสียไปนั้นมันตอบความสุขในใจหรือความเป็นอยู่ของเราได้ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน
เขียนไปแล้วก็นึกถึงการตัดสินใจไม่รับน้ำแข็งหลอดของร้านกาแฟที่เขียนถึงในเบื้องต้น เพราะเธอเชื่อว่ารสชาติกาแฟที่มีรสสัมผัสจากน้ำแข็งเกล็ดนี่แหละ คือรสชาติที่แท้จริงของร้านนี้
ไม่ว่าเราจะยืนหยัดหรือจะปรับเปลี่ยนก็เป็นเรื่องธรรมดา ขอแค่ว่าเรายังคงเป็นเรา และมีตัวตนหลงเหลืออยู่บ้าง แม้ไม่เต็มร้อยแต่เราก็ยังรู้ว่าสิ่งที่เรายืนหยัดหรือปรับเปลี่ยนไปนั้น
เราทำไปเพื่ออะไร…
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน