ก่อนหน้านี้หากอยากมีชีวิตที่ดี การทำงานที่โอเค ก็ต้องจัดสรรให้เกิดคำว่า Work Life Balance
แต่ยุคสมัยที่ชีวิตการทำงานถูกคลุมด้วยเทคโนโลยี ถ้าอยากใช้ชีวิตไปได้ การงานก็ไปด้วย เลยเกิดความ Work Life Integration เรียกได้ว่าเสียงจาก E-Mail Line หรือ Messenger ดังขึ้นมาในวันหยุด คุณก็อาจจะเกิดอาการ Panic จนต้องลุกขึ้นมาเปิดคอมทำงานเพื่อให้เกิดความสบายใจ ในมุมเจ้าของหรือผู้ประกอบการอาจจะชื่นใจ แต่ในมุมลูกจ้าง นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาวะที่ค่อยๆ เลวร้ายก็ได้
.
ผมเชื่อว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เป็นคนทำงานประเภทแบบข้างบนที่เพิ่งเขียนถึงไป ที่ชอบทำงานลักษณะอยากเคลียร์ประเด็นที่คั่งค้างไว้ให้เสร็จสิ้น ด้วยการตัดสินใจลงมือพิมพ์คำตอบทั้งจากลูกค้า พาร์ทเนอร์ หัวหน้า ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งแฟน เพื่อน ครอบครัว เป็นต้น
.
การมีพฤติกรรมลักษณะถามมา-ตอบไวนี้ในการทำงาน ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันสามารถเป็นภาวะหรือโรคได้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Immediately Reply Syndrome’ สารภาพว่ารู้จักจากโรคนี้ผ่านการอ่านหนังสือ Work Life Balance ของคุณหมอญี่ปุ่นอย่าง มาซากิ นิชิดะ เนี่ยแหละครับ

คุณหมอมาซากิ วิเคราะห์ว่าสาเหตุของการเป็นโรคนี้ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การกลัวเสียมารยาท หากไม่รีบตอบกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ถามเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ หรือบุคคลสำคัญ หรือการมีพื้นฐานที่เป็นคนใส่ใจเป็นทุนเดิม ที่อาจตั้งกฎให้ตัวเองจนเกิดความตึงเครียดมากเกินไป
เพราะยึดการสะสางงานเป็นหลักเพื่อลดความกังวลใจ และสร้างสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ผู้อื่นเห็นว่าเราเป็นคนตั้งใจทำงานมากแค่ไหน
ความมุ่งมั่นและเจตนาที่ดีต่องานก็เป็นอีกส่วนที่ควรเก็บไว้ แต่หากมีพฤติกรรมเช่นนี้ไปเสียทุกเรื่อง อาจส่งผลให้เราเป็นโรค I Disorder ได้ คืออาการวิตกและคิดว่ามีข้อความเข้ามือถืออยู่ตลอดเวลา หากถามว่าเราควรจะแก้ไขอย่างไร คุณหมอมาซากิ มีวิธีครับ
คุณหมอแนะนำว่า การที่มีข้อความเข้ามาหาเราทันที ให้เราตั้งสติและพิจารณาก่อนว่า ข้อความนี้ด่วนหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องงาน หากเป็นเรื่องที่ด่วนก็ควรตอบกลับไป แต่หากไม่ใช่เรื่องด่วนมากแต่ก็มีความสำคัญ ก็อาจจะตอบกลับเพื่อทราบไว้ก่อนพร้อมกับวันเวลาที่จะให้คำตอบและรายละเอียด
ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อเราเป็นผู้ส่งสารไป เราไม่ควรเรียกร้อง การตอบกลับโดยทันทีจากอีกฝั่งหนึ่ง นอกจากกรณีที่เร่งด่วนหรือเร่งรีบจริงๆ ซึ่งโดยส่วนตัวผมจะแนะนำให้โทรหาเลยดีกว่า หรือหากไม่ติดก็ควรทิ้งข้อความเอาไว้หลายๆ แห่ง เช่น Line Messenger หรือข้อความทางมือถือ
เทคนิคอีกวิธีหนึ่งที่เป็นประสบการณ์ของผมก็คือ การตั้ง Auto Message เหมือนที่ตามเพจ Commercial ต่างๆ ได้ตั้งเอาไว้ครับ เช่น สวัสดีครับ…ไว้จะติดต่อภายในวันนี้นะครับ หรือมีพี่ที่รู้จักก็ตั้งข้อความลักษณะนี้ไว้ในมือถือเหมือนกันเมื่อผมโทรหาเขาไม่ติด ก็จะมีเมจเสจเด้งเข้ามาว่า ‘ขออภัยติดประชุม…เดี๋ยวโทรกลับนะครับ’ ซึ่งก็ทำให้เรารู้เหตุผลว่า อ่อ…เขาไม่ว่างเพราะติดประชุมนี่เอง
โดยภาพรวมใครมีอาการ Immediately Reply Syndrome กับการทำงานอยู่ก็อยากให้ลองลดระดับความตึงเครียดบ้างนะครับ เพราะผมเชื่อว่าอะไรที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีต่อสุขภาวะทั้งร่างกายและจิตใจนักหรอก
ผมว่าอาการแบบนี้ควรเก็บความตื่นตัวเอาไว้ใช้ เมื่อคู่ชีวิตติดต่อสอบถามมาดีกว่า ภาวะนี้ผมเชื่อว่ายิ่งใช้ ยิ่งปลอดภัยกับชีวิตมากครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโทรมาแล้วสายไม่ว่างนี้ ต้องหาเหตุผลดีๆ ในการตอบไปนะครับ โดยเฉพาะการอ้างว่ามีประชุมดึกๆ เนี่ย เป็นเหตุผลที่อันตรายมากกว่า อาการ Immediately Reply Syndrome เสียอีก เชื่อผม!
อย่าลืมติดตาม PODCAST ออฟฟิศ 0.4
SPOTIFY : https://spoti.fi/38KKW19
APPLE : https://apple.co/2TXdzUr
SOUNDCLOUND : http://bit.ly/OFFICE04TH-SC
YOUTUBE : http://bit.ly/OFFiCE04TH-YT
PODBEAN : https://office04th.podbean.com/

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน