The Disruptor
หนังสือปกสีดำที่โดดเด่นด้วยคำที่ถูกยุคสมัยเขย่าให้เราต้องตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลาจากการแทรกแซงของความก้าวหน้าหลายๆ อย่าง นั่นทำให้คนทุกวงการไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหนต้องหันมาเรียนรู้และอัพเดทตัวเองเพื่อไม่ให้ชีวิตถูกสิ่งใหม่เข้ามาเขี่ยเราทิ้งออกจากพื้นที่ในเร็ววัน นี่น่าจะเป็นภาพรวมของหนังสือ The Disruptor จากสนพ. WE LEARN ซึ่งเขียนโดย คุณ รวิศ หาญอุตสาหะ ผู้บริหารแบรนด์ศรีจันทร์ และเจ้าของเพจ Mission to The Moon ครับ
จำนวนหน้าไม่เยอะ แต่เนื้อหาหลากหลาย
ภายใต้จำนวนหน้ากว่า 250 หน้ากระดาษที่บรรจุบทความถึง 50 เรื่องนั้นมีความหลากหลายมาก บ้างมาจากประสบการณ์ทางอ้อมที่คุณรวิศได้เรียนรู้จากบุคคลรอบตัว ข้อมูลจากหนังสือและเว็บไซต์ที่ได้อ่านและติดตามจนเกิดเป็นไอเดียในการเขียนและเรียบเรียงเพื่อมาเล่าต่อ ส่วนประสบการณ์จริงนั้นก็มีมุมที่น่าสนใจโดยเฉพาะเรื่องการบริหารเวลาในการทำงานที่มากมายควบคู่ไปกับงานเขียนหนังสือที่คุณรวิศรักและชื่นชอบก็ทำให้ใครหลายคนพอทราบถึงเคล็ดลับของคุณรวิศไปบ้างพอสมควร
ความโดดเด่นยังเหมือนเดิม
ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้ยังคงเป็นเรื่องของสไตล์และโครงสร้างที่คุณรวิศนิยมใช้เสมอนั่นคือการเปิดเรื่องจากปัญหาหรือสิ่งที่สนใจและการเชื่อมโยงไปสู่กรณีศึกษาจากต่างประเทศในแต่ละอุตสาหกรรมมากมาย รวมถึงบทปิดท้ายที่มักลงเอยด้วยข้อคิดที่สอดคล้องกับประเด็นนั้นๆ ผ่านคำคมของบุคคลสำคัญทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างลงตัว
ควรอ่านไม่ใช่เพราะนักเขียน แต่ในฐานะผู้บริหาร
หนังสือของคุณรวิศไม่ได้เป็นเพียงหนังสือรวบรวมบทความธรรมดา แต่ในมุมมองของผู้อ่านอย่างเราแล้ว เหมือนเป็นหนังสือที่อยู่ในหมวดการตลาดและธุรกิจที่ทุกคนควรหยิบมาอ่านเพื่อเท่าทันต่อสิ่งที่คุณรวิศคิดและอ่านเกมที่เปลี่ยนแปลงไปของโลกธุรจกิและการพัฒนาตัวเองทุกย่างก้าว ไม่ใช่ในฐานะนักเขียน แต่มองในฐานผู้บริหารที่ลุกขึ้นมาเขียนภายใต้ความสนใจของคุณรวิศเอง
วิสัยทัศน์ที่ซุกซ่อนอยู่ในเล่มนี้
หลายบทสะท้อนวิสัยทัศน์ของตัวผู้เขียนที่ชื่นชอบการอ่าน และการพัฒนาจากการหาวิธีคิดและวิธีทำในการนำพาองค์กรของตัวเองให้เดินหน้าเพื่อไปอยู่ในจุดที่ต้องการไปให้ได้ รวมถึงการหาแรงบันดาลใจจากกรณีศึกษาที่ได้เขียนไว้ อาทิเช่น บทที่ 16 กับประเด็นเรื่องการสงสัยภาษาค่าสีกลางที่นำไปสู่การเกิดขึ้นของ PANTONE หรือการค้นสูตรลับของ M-150 ที่ทำยอดเข้ามาใกล้เคียงกับกระทิงแดง ทั้งหมดเกิดจากความสงสัยและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
อนาคตมี 2 ทาง
The Disruptor จึงไม่ใช่แค่หนังสือที่น่าอ่าน แต่เป็นหนังสือที่สมควรอ่านอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหรือสถานะของผู้เขียนเองก็ตาม เพราะสถานการณ์ของยุคที่ยังคงเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ ต่างหากที่บังคับให้เราต้องอ่าน เพื่ออนาคตของเราเองอย่างที่คุณรวิศได้เขียนไว้บนปกหนังสือเล่มนี้ว่า
อนาคตมีแค่ 2 ทาง
คุณจะเปลี่ยน
หรือรอให้โลกเปลี่ยนคุณ
อ่านเถิดอย่างน้อยวันนึงถ้าเราตกงานไป เราจะได้รู้ว่าเราเปลี่ยนแปลงไม่ทันโลก และโลกก็เปลี่ยนคุณแทน

Podcaster : ออฟฟิศ 0.4
Writer : สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก / เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน / เป็นคนที่ใช่ในงานที่ชอบ / นี่เงินเดือนหรือเงินทอน